จดหมายนักบุญเปาโลถึงฟีเลโมน (อังกฤษ: Epistle to Philemon) เป็นหนังสือฉบับที่ 18 ในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่ แต่เดิมหนังสือเล่มนี้เป็นจดหมายส่วนตัวของนักบุญเปาโลอัครทูตเขียนถึงฟีเลโมนซึ่งเป็นเพื่อนที่อาศัยอยู่ในเมืองโคโลสี จากข้อความเริ่มต้นของจดหมายและลักษณะการเขียน ยืนยันได้ว่าผู้เขียนคือนักบุญเปาโล และจากข้อความอื่น ๆ ในจดหมายบ่งบอกว่า จดหมายฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นในขณะที่นักบุญเปาโล ถูกจำคุกอยู่กับเอปาฟรัส ดังนั้น ช่วงเวลาที่เขียนจดหมายนี้น่าจะใกล้เคียงกับที่เขียนพระธรรมโคโลสี ซึ่งก็จะอยู่ในราวปีค.ศ. 60 ตามข้อความในจดหมายฟีเลโมนน่าจะเป็นผู้ที่มีฐานะดี เพราะมีคริสตจักรอยู่ในบ้านของตนเอง และมีทาสอยู่ในความครอบครองด้วย แม้ว่าจะไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า มีทาสอยู่เป็นจำนวนเท่าใด แต่อย่างน้อยมีอยู่หนึ่งคนชื่อ โอเนสิมัส ผู้ได้แอบขโมยของบางสิ่งบางอย่างของเจ้านาย ซึ่งตามกฎหมายของชาวโรมันแล้วมีโทษถึงตาย แต่ระหว่างทางที่หนีไปยังกรุงโรม ได้ไปพบกับนักบุญเปาโล หลังจากกลับใจเป็นคริสเตียนแล้ว โอเนสิมัสตั้งใจจะกลับไปหา ฟีเลโมน ผู้เป็นนายของตนนักบุญเปาโล จึงเขียนจดหมายฉบับนี้และฝากไปกับโอเนสิมัส
ฟีเลโมน เป็นจดหมายที่สั้นที่สุดที่นักบุญเปาโลเขียน มีจุดประสงค์อยู่ 2 ประการ ประการแรกคือ ต้องการขอร้องให้ ฟีเลโมน ให้อภัยและยอมรับโอเนสิมัสเหมือนเป็นน้องชาย ไม่ใช่ในฐานะทาสอีกต่อไป โดยยืนยันว่า หลังจากโอเนสิมัสกลับใจเป็นคริสเตียนแล้ว เขามีประโยชน์จริง ๆ ตามชื่อของเขา ประการที่สองคือ ต้องการให้ทราบว่า ใครก็ตามที่รับพระกิตติคุณของพระเจ้า ก็จะได้รับการอภัยโทษและชีวิตเปลี่ยนไป ไม่ใช่เฉพาะโอเนสิมัสเท่านั้น แม้แต่นักบุญเปาโลเองก็เคยอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้า มื่อกลับใจก็จะได้รับการอภัย ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป บุคคลหลาย ๆ คนที่นักบุญเปาโลอ้างถึงในจดหมายสั้น ๆ ฉบับนี้ เช่น อัปเฟีย อารคิปปัส เอปาฟรัส มาระโก อาริสทารคัส เดมาส และลูกา ก็เช่นกัน
ศาสนาคริสต์ (อังกฤษ: Christianity) ราชบัณฑิตยสถานเรียกว่า คริสต์ศาสนา เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม ที่มีพื้นฐานมาจากชีวิตและการสอนของพระเยซูตามที่ปรากฏในพระวรสารในสารบบ (canonical gospel) และงานเขียนพันธสัญญาใหม่อื่น ๆ ผู้นับถือศาสนาคริสต์เรียกว่าคริสต์ศาสนิกชนหรือคริสตชน คริสตชนเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าผู้มาบังเกิดเป็นมนุษย์และเป็นพระผู้ไถ่ ด้วยเหตุนี้ คริสตชนจึงมักเรียกพระเยซูว่า “พระคริสต์” หรือ “พระเมสสิยาห์” ศาสนาคริสต์ปัจจุบันแบ่งเป็นสามนิกายใหญ่ คือ โรมันคาทอลิก อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโปรเตสแตนต์ ซึ่งยังแบ่งนิกายย่อยได้อีกหลายนิกาย เขตอัครบิดรโรมันคาทอลิกและออร์ทอดอกซ์แยกออกจากกันในช่วงศาสนเภทตะวันออก-ตะวันตก (East–West Schism) ใน ค.ศ. 1054 และนิกายโปรเตสแตนต์เกิดขึ้นหลังการปฏิรูปศาสนาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งแยกตัวออกจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก
คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าพระเยซูคือพระเมสสิยาห์ที่พยากรณ์ไว้ในคัมภีร์ฮีบรู ซึ่งในศาสนาคริสต์เรียกว่า “พันธสัญญาเดิม” พื้นฐานเทววิทยาศาสนาคริสต์นั้นแสดงออกมาในหลักข้อเชื่อสากล (ecumenical creed) ที่มีมาตั้งแต่ศาสนาคริสต์ยุคแรก และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในบรรดาคริสต์ศาสนิกชน การประกาศความเชื่อนี้มีอยู่ว่า พระเยซูทรงรับพระทรมาน สิ้นพระชนม์ และถูกฝังไว้ ก่อนจะคืนพระชนม์เพื่อให้ชีวิตนิรันดร์แก่ผู้ที่เชื่อในพระองค์และไว้วางใจว่าพระองค์เป็นผู้ไถ่บาป พวกเขายังเชื่ออีกว่าพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ที่ซึ่งพระองค์ทรงควบคุมและปกครองรวมกับพระเจ้าพระบิดา นิกายส่วนใหญ่สอนว่าพระเยซูจะกลับมาพิพากษามนุษย์ทุกคน ทั้งคนเป็นและคนตาย และให้ชีวิตนิรันดร์แก่สาวกของพระองค์ พระองค์ทรงถูกมองว่าเป็นแบบอย่างของชีวิตอันดีงาม และเป็นทั้งผู้เผยพระวจนะและเป็นพระเจ้าลงมารับสภาพมนุษย์ ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ศาสนาคริสต์มีศาสนิกชนประมาณ 2.4 พันล้านคนทั่วโลก คิดเป็นประมาณ 33% หรือหนึ่งในสี่ถึงหนึ่งในสามของประชากรโลก และเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นศาสนาประจำชาติในหลายประเทศ
คัมภีร์ไบเบิล หรือ พระคัมภีร์ (มาจากภาษากรีกโบราณว่า Βίβλος บิบลิออน แปลว่า หนังสือ) ชาวโปรเตสแตนต์เรียกว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์ (Holy Bible) เป็นหนังสือที่บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระยาห์เวห์ มนุษย์ บาป และแผนการของพระยาห์เวห์ในการช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากความพินาศอันเนื่องจากความบาปสู่ชีวิตนิรันดร์ เป็นหนังสือที่บันทึกหลักธรรมคำสอนของศาสนาคริสต์ ซึ่งในบางเล่มมีพื้นฐานมาจากหลักคำสอนของศาสนายูดาห์ของชาวยิว ชาวคริสต์เรียกคัมภีร์ไบเบิลในชื่ออื่น ๆ อีกหลายชื่อ เช่น พระวจนะของพระเจ้า (Word of God) หนังสือดี (Good Book) และคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Scripture) คริสตชนทุกคนเชื่อว่าพระคัมภีร์ทุกบททุกข้อนั้นมนุษย์เขียนขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า ประกอบด้วยหนังสือจำนวน 66 หรือ 73 หรือ 78 เล่ม (แล้วแต่นิกาย) ประกอบด้วยภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมถูกเขียนขึ้นก่อนที่พระเยซูคริสต์ประสูติ ทั้งหมดเขียนเป็นภาษาฮีบรู ยกเว้นส่วนที่เป็นคัมภีร์อธิกธรรม (ยอมรับเฉพาะชาวคาทอลิก) ถูกเขียนด้วยภาษากรีกและภาษาอียิปต์ ส่วนพันธสัญญาใหม่ถูกเขียนขึ้นหลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว โดยบันทึกถึงเรื่องราวของพระเยซูตลอดพระชนม์ชีพ รวมทั้งคำสอน และการประกาศข่าวดีแห่งความรอด การยอมรับการทรมาน และการไถ่บาปของมนุษย์โดยพระเยซู การกลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ การส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังอัครทูต ประวัติศาสตร์ของคริสตจักรในยุคแรกเริ่ม ภายหลังการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูแล้ว การเบียดเบียนคริสตจักรในรูปแบบต่าง ๆ