พระแม่มารีเบนัวส์

แตรทั้งเจ็ด (อังกฤษ: Seven trumpets) ตามที่ได้ระบุไว้ในหนังสือวิวรณ์ของภาคพันธสัญญาใหม่นั้น เป็นแตรที่พระเจ้าทรงมอบแก่ทูตสวรรค์หน้าพระพักตร์จำนวนเจ็ดองค์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สืบเนื่องหลังจากการทำลายตราประทับดวงที่เจ็ด การเป่าแตรแต่ละครั้งนำมาซึ่งความวิบัติแก่ผืนแผ่นดินโลก เหตุการณ์สืบเนื่องจากเสียงแตรทั้งเจ็ดนี้ คือขันทั้งเจ็ดแห่งพระพิโรธ
แตรแห่งทูตสวรรค์ทั้งเจ็ด
แตรที่หนึ่ง: ทำให้เกิดลูกเห็บและไฟที่ทำลายพืชสีเขียวในโลก
แตรที่สอง: สิ่งที่เหมือนดาวขนาดใหญ่กำลังมอดไหม้ตกสู่ท้องทะเล ทำให้สิ่งมีชีวิตในทะเลตายไปหนึ่งในสาม
แตรที่สาม: ดาวใหญ่ที่ลุกไหม้จากท้องฟ้าตกลงไปในหนึ่งในสามของแม่น้ำทั้งหลาย น้ำปริมาณหนึ่งในสามก็กลายเป็นรสขม
แตรที่สี่: แสงของดวงอาทิตย์และของดวงจันทร์ดับมืดไปหนึ่งในสาม
แตรที่ห้า: กองทัพตั๊กแตนเข้าทรมาณมนุษย์ผู้ไม่มีตราของพระเจ้าเป็นเวลาห้าเดือน
แตรที่หก: ทูตสวรรค์สี่ตนที่ยูเฟรติสถูกแก้มัด เพื่อนำกองทัพทหารม้าสองร้อยล้านเข้าเข่นฆ่าวงศ์มนุษย์เสียหนึ่งส่วนสาม
แตรที่เจ็ด: ทำให้เกิดเหตุการณ์ขันแห่งพระพิโรธทั้งเจ็ด

jumbo jili


หนังสือวิวรณ์ (อังกฤษ: Book of Revelation) เป็นหนังสือเล่มที่ 27 หรือเล่มสุดท้ายในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งในตอนที่สี่ที่เป็นการพยากรณ์ มีหนังสือเล่มนี้เพียงเล่มเดียว ผู้เขียนระบุชื่อของตนเองอย่างชัดเจนว่าชื่อ ยอห์น และอาศัยอยู่ที่เกาะปัทมอส คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าเป็นยอห์นเดียวกับยอห์นอัครทูตและยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสาร แต่จากการศึกษาด้านวิธีการประพันธ์ เนื้อหาทางเทววิทยา และการใช้ศัพท์ ที่ทั้งสามเล่มใช้แตกต่างกัน นักวิชาการจึงลงความเห็นว่าบุคคลทั้งสามไม่ใช่คนเดียวกันจึงเรียกผู้เขียนหนังสือวิวรณ์ว่ายอห์นแห่งปัทมอสตามที่ระบุในหนังสือนั้น ยอห์นแห่งปัทมอสระบุว่าได้เขียนขึ้นขณะที่อยู่บนเกาะปัทมอส อันเป็นสถานที่ซึ่งได้ถูกเนรเทศมาและได้อยู่ที่นั่นจนสิ้นชีวิต ช่วงเวลาในการเขียนพระธรรมเล่มนี้น่าจะอยู่ในราวปีค.ศ. 95

สล็อต


ยอห์นแห่งปัทมอสขึ้นต้นหนังสือเล่มนี้ด้วยการอธิบายก่อนเลยว่า สิ่งที่ผู้อ่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็น วิวรณ์ ที่พระเจ้าได้ทรงประทานแก่ พระเยซู แล้วพระเยซูได้ทรงใช้ทูตสวรรค์ให้มาสำแดงแก่ท่านอีกที สไตล์ในการเขียนพระธรรมเล่มนี้แปลกกว่าเล่มอื่น ๆ กล่าวคือ เนื้อหาในพระธรรมมีสองลักษณะปนกันอยู่ มีทั้งการเขียนในลักษณะของจดหมายที่ระบุผู้รับ (หากจะนับ พบว่ามีอยู่ถึง 7 ฉบับรวมอยู่ในพระธรรมเล่มนี้) และมีทั้งการเขียนในลักษณะบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย ในช่วงนั้นเป็นเวลาที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ และเริ่มบังคับคนที่ถูกปกครองอยู่ภายใต้อำนาจให้กราบไหว้จักรพรรดิเหมือนเป็นพระเจ้า คริสเตียนซึ่งถือว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า ไม่ใช่ซีซาร์ จึงต้องเผชิญกับอันตรายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคริสตจักรเริ่มจะหาทางออกด้วยการประณีประนอม ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ยอห์นแห่งปัทมอสจึงเขียนพระธรรมเล่มนี้ขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจให้คริสเตียนยืนหยัดในความเชื่อ ต่อต้านการกราบไหว้จักรพรรดิในฐานะพระเจ้า และกล่าวถึงการต่อสู้กันครั้งสุดท้ายระหว่างพระเจ้ากับซาตานใกล้จะบังเกิดขึ้นแล้ว ซาตานจะกดขี่ข่มเหงคริสเตียนหนักขึ้น แต่พวกคริสเตียนจำเป็นต้องทน แม้จะต้องสังเวยด้วยชีวิตก็ตาม เพราะในไม่ช้าเมื่อถึงเวลาที่พระเยซูเสด็จกลับมา ฝ่ายซาตานจะถูกกำจัดและประชาชนของพระเจ้าจะเข้าสู่สันติสุขนิรันดร์

สล็อตออนไลน์


พันธสัญญาใหม่ (กรีก: Καινή Διαθήκη; อังกฤษ: New Testament) หรือ พระคริสตธรรมใหม่ เป็นภาคที่สองของคัมภีร์ไบเบิล จากทั้งหมด 2 ภาค ประกอบด้วยหนังสือภาษากรีกทั้งสิ้น 27 เล่ม ส่วนใหญ่ผู้เขียนเป็นอัครทูตและนักบุญในช่วงเวลาเดียวกัน และทุกเล่มเขียนขึ้นหลังการตรึงพระเยซูที่กางเขน แม้ว่าพระเยซูจะไม่ได้ทรงเขียนด้วยพระองค์เอง แต่คริสต์ศาสนิกชนก็เชื่อว่าผู้เขียนได้เขียนขึ้นจากการดลใจและการทรงนำของพระเป็นเจ้าและพระเยซูผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ส่วนชาวมุสลิมแม้จะนับถือพระเยซูเป็นนบีอีซา แต่ก็ไม่ยอมรับคัมภีร์ไบเบิลในปัจจุบันว่าเป็นพระวจนะของพระเจ้า เพราะนักวิชาการอิสลามเห็นว่าคัมภีร์นี้ถูกตัดเสริมแต่งและสังคายนากันหลายครั้ง
ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่ แบ่งหนังสือออกเป็น 5 หมวดใหญ่ ได้แก่
หมวดพระวรสาร (Gospels) ประกอบด้วย 4 เล่ม ว่าด้วย ประวัติพระเยซูคริสต์ และพระธรรมเทศนา
หมวดประวัติศาสตร์ (Historical book) ประกอบด้วย 1 เล่ม ว่าด้วย เหตุการณ์การเผยแพร่ของอัครสาวก
หมวดจดหมายของเปาโล (Pauline epistles) ประกอบด้วย 14 เล่ม ว่าด้วย พระธรรมเทศนาผ่านนักบุญเปาโล ในจดหมายถึงคริสตจักรต่างๆ
หมวดจดหมายทั่วไป (General epistles) ประกอบด้วย 7 เล่ม ว่าด้วย พระธรรมเทศนาผ่านนักบุญท่านอื่น ในจดหมายถึงคริสตจักรต่างๆ
หมวดวิวรณ์ (Revelation) ประกอบด้วย 1 เล่ม ว่าด้วย พยากรณ์การเสด็จมาในวันพิพากษา จากนิมิตของนักบุญยอห์น

jumboslot


พระเยซู (อังกฤษ: Jesus) หรือ เยซูชาวนาซาเร็ธ (อังกฤษ: Jesus of Nazareth; 4-2 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 30-33) เป็นชาวยิวผู้เป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ คริสต์ศาสนิกชนเรียกพระองค์ว่า พระเยซูคริสต์ เพราะถือว่าพระองค์เป็นพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด เป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าพระบุตรซึ่งเป็นพระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ นอกจากนี้ในคัมภีร์ไบเบิลยังบันทึกว่าพระเยซูทรงแสดงปาฏิหาริย์ทรงรักษาคนตาบอดให้หายขาด รักษาคนพิการ โดยตรัสว่า บาปของเจ้าได้รับการให้อภัยแล้ว หลังพระเยซูสิ้นพระชนม์ ก็ได้ทรงฟื้นขึ้นจากความตายหลังสิ้นพระชนม์ได้เพียง 3 วัน และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ชาวมุสลิมก็ให้ความเคารพพระเยซูเช่นกัน แต่เชื่อต่างจากชาวคริสต์ โดยชาวมุสลิมเรียกพระเยซูว่านบีอีซา คัมภีร์อัลกุรอานระบุว่าพระเยซูไม่ใช่ทั้งพระเจ้าและพระบุตรของพระเจ้า แต่เป็นบ่าวคนหนึ่งของพระเจ้า และเป็นเราะซูลที่พระเจ้าส่งมาเป็นแบบอย่างทางศีลธรรมให้แก่ชาวอิสราเอลเช่นเดียวกับเราะซูลอื่น ๆ นอกจากนี้กุรอานยังอ้างว่าพระเยซูได้ทำนายถึงเราะซูลอีกท่านหนึ่งที่จะมาในอนาคตด้วยว่าชื่ออะหมัด

slot