พระแม่มารีแห่งภูผา

พระพรมหัศจรรย์ หรือ มหาบุญลาภ (ศัพท์คาทอลิก) (อังกฤษ: Beatitudes) เป็นตอนต้นใน 10 บรรทัดแรกของคำเทศนาบนภูเขา ซึ่งมีชื่อเสียงมาก และเป็นหลักคำสอนที่บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในยุคหลังเช่น มหาตมา คานธี และ มาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์ ต่างให้ความนับถือเป็นอย่างสูง ความหมายของพระพรแต่ละประการนั้นมีผู้อธิบายขยายความไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในภาษาแอราเมอิกและภาษากรีกที่ใช้ในการบันทึกคำสอน และจากการรวบรวมสามารถสรุปความโดยสังเขปได้ดังนี้

jumbo jili


เนื้อหาและอรรถาธิบาย

  1. Blessed are the poor in spirit : for theirs is the kingdom of heaven. (“เป็นบุญของผู้สมัครใจในความยากจน เหตุว่าอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา”)
    คำว่า “ยากจน” ในความหมายของพระเยซูคือการไม่ยึดติดกับวัตถุสิ่งของแต่มีใจยึดมั่นอยู่กับพระเจ้าเท่านั้น คนจนของพระเจ้าจึงไม่ได้หมายถึงคนจนที่ไม่มีสมบัติ เพราะคนจนแบบนี้ยังมีใจโลภในสิ่งของต่าง ๆ เพียงแต่ไม่มีโอกาสที่จะครอบครอง คนจนของพระเจ้านั้นเลือกที่จะปล่อยวางวัตถุไม่มุ่งสะสมทรัพย์สมบัติในโลกนี้แต่มุ่งแสวงหาความร่ำรวยในอาณาจักรสวรรค์ คือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้านั่นเอง
  2. Blessed are they that mourn : for they shall be comforted . (“เป็นบุญของผู้เศร้าโศก เหตุว่าเขาจะได้รับการปลอบโยนบรรเทา”)
    พระเยซูสอนไม่ให้หนีความทุกข์แต่เผชิญหน้ากับมันและหาความหมายในความทุกข์เหล่านั้น แม้แต่พระเยซูเองก็ไม่หนีความทุกข์ แต่ทรงยอมรับพระทรมานและยอมสละชีวิตบนไม้กางเขน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการไถ่บาป ความทุกข์จึงเป็นโอกาสให้นึกถึงพระวจนะและได้รับพระเมตตาจากพระเจ้าในที่สุด
  3. Blessed are the meek : for they shall inherit the earth. (“เป็นบุญของผู้มีใจอ่อนโยน เหตุว่าเขาจะได้ครอบครองแผ่นดิน”)
    ความมีใจอ่อนโยนนั้นหมายถึงการเป็นผู้ที่ว่านอนสอนง่าย ความสุภาพถ่อมตน ไม่เป็นศัตรูกับใคร ระวังความจองหองและริษยาที่อาจเกิดในใจได้ตลอดเวลา ผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยนย่อมเป็นที่รักของผู้อื่น จึงเปรียบเสมือนการได้แผ่นดินโลกไว้เป็นกรรมสิทธิ์

สล็อต

  1. Blessed are they which do hunger and thirst after righteousness : for they shall be filled. (“เป็นบุญของผู้กระหายโหยหาความชอบธรรม เหตุว่าเขาจะได้รับความอิ่มหนำสมบูรณ์”)
    ผู้ที่ศรัทธาในความชอบธรรมอย่างแรงกล้า ย่อมดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้าอย่างมั่นคง ด้วยเชื่อมั่นว่าพระองค์จะทรงประทานบำเหน็จแก่เราในวันที่เราจะต้องได้รับการพิพากษาอย่างแน่นอน เพราะเมื่อเรากระหายโหยหาความชอบธรรม และดำเนินชีวิตตามความชอบธรรมนั้นอย่างสุดจิตใจแล้ว ย่อมไม่รู้สึกว่าตนเองถูกผู้ใดข่มเหงเบียดเบียน ไม่ต้องการแสวงหาความสุขใส่ตน แต่ทำทุกอย่างเพื่อผู้อื่นตามวิถีทางแห่งความชอบธรรม
  2. Blessed are the merciful : for they shall obtain mercy. (“เป็นบุญของผู้มีใจเมตตากรุณา เหตุว่าเขาจะได้รับพระเมตตาดุจเดียวกัน”)”
    ความเมตตากรุณา ในความหมายของพระเยซู คือความสามารถในการเข้าถึงจิตใจของผู้อื่น และการระลึกว่าเพื่อนมนุษย์คือลูกของพระเจ้า เป็นพี่น้องที่พระเจ้ามีพระประสงค์จะให้เราช่วยเหลือ
  3. Blessed are the pure in heart : for they shall see God. (“เป็นบุญของผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ เหตุว่าเขาจะได้เห็นพระผู้เป็นเจ้า”)
    การมีจิตใจบริสุทธิ์ในความหมายของพระเยซูเจ้าคือการทำทุกอย่างโดยบริสุทธิ์ใจในความดี เพราะใจบริสุทธิ์นั้นเป็นคุณสมบัติของพระเจ้า ผู้มีใจพระย่อมเห็นพระเจ้าได้
  4. Blessed are the peacemakers : for they shall be called the children of God. (“เป็นบุญของผู้สร้างสันติ เหตุว่าเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า”)
    “สันติ” ในความหมายของพระเยซูคือความสงบสันติโดยสมบูรณ์ เพราะพระเจ้าเป็นองค์ความสันติ ผู้ใดสร้างสันติผู้นั้นจึงใกล้ชิดกับพระเจ้า การปฏิบัติตามวิถีทางของพระเจ้าจึงได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้านั่นเอง
  5. Blessed are they which are persecuted for righteousness’ sake : for theirs is the kingdom of heaven. (“เป็นบุญของผู้ถูกข่มเหงด้วยเหตุแห่งความชอบธรรม เหตุว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา”)

สล็อตออนไลน์


พระเยซู (อังกฤษ: Jesus) หรือ เยซูชาวนาซาเร็ธ (อังกฤษ: Jesus of Nazareth; 4-2 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 30-33) เป็นชาวยิวผู้เป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ คริสต์ศาสนิกชนเรียกพระองค์ว่า พระเยซูคริสต์ เพราะถือว่าพระองค์เป็นพระคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอด เป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าพระบุตรซึ่งเป็นพระบุคคลหนึ่งในพระตรีเอกภาพ นอกจากนี้ในคัมภีร์ไบเบิลยังบันทึกว่าพระเยซูทรงแสดงปาฏิหาริย์ทรงรักษาคนตาบอดให้หายขาด รักษาคนพิการ โดยตรัสว่า บาปของเจ้าได้รับการให้อภัยแล้ว หลังพระเยซูสิ้นพระชนม์ ก็ได้ทรงฟื้นขึ้นจากความตายหลังสิ้นพระชนม์ได้เพียง 3 วัน และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ชาวมุสลิมก็ให้ความเคารพพระเยซูเช่นกัน แต่เชื่อต่างจากชาวคริสต์ โดยชาวมุสลิมเรียกพระเยซูว่านบีอีซา คัมภีร์อัลกุรอานระบุว่าพระเยซูไม่ใช่ทั้งพระเจ้าและพระบุตรของพระเจ้า แต่เป็นบ่าวคนหนึ่งของพระเจ้า และเป็นเราะซูลที่พระเจ้าส่งมาเป็นแบบอย่างทางศีลธรรมให้แก่ชาวอิสราเอลเช่นเดียวกับเราะซูลอื่น ๆ นอกจากนี้กุรอานยังอ้างว่าพระเยซูได้ทำนายถึงเราะซูลอีกท่านหนึ่งที่จะมาในอนาคตด้วยว่าชื่ออะหมัด

jumboslot


คำว่า “เยซู” มาจากคำในภาษากรีกคือ “เยซุส” Ιησους [Iēsoûs] ซึ่งมาจากการถ่ายอักษรชื่อ Yeshua [เยชูวา] ในภาษาแอราเมอิกหรือฮีบรูอีกทอดหนึ่ง คริสตชนอาหรับเรียกเยซูว่า “ยาซูอฺ” ตามภาษาซีรีแอก ส่วนชาวอาหรับมุสลิมเรียกว่า “อีซา” ตามอัลกุรอาน ความหมายคือ “ผู้ช่วยให้รอด” เป็นชื่อที่ใช้กันมากในหมู่ชาวยิวตั้งแต่สมัยโยชูวาเป็นต้นมา ภาษาละตินแผลงเป็นเยซูส ภาษาโปรตุเกสแผลงต่อเป็นเยซู ภาษาไทยทับศัพท์ภาษาโปรตุเกสมาจนทุกวันนี้ ส่วนคำว่า “คริสต์” เป็นสมญาซึ่งมาจากคำในภาษากรีกว่า “คริสตอส” Χριστός [Christos] ซึ่งเป็นคำแปลของคำภาษาฮีบรู Messiah อันหมายถึง “ผู้ได้รับการเจิม” ชาวอาหรับเรียกว่า “มะซีฮฺ” ซึ่งหมายถึงการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่สูงส่ง เช่น พระมหากษัตริย์ ปุโรหิต ผู้เผยพระวจนะ เป็นต้น เมื่อราชอาณาจักรยูดาห์เสียแก่บาบิโลน ก็สิ้นกษัตริย์ที่ได้รับการเจิม ต่อจากนั้นชาวยิวก็โหยหาพระเมสสิยาห์ที่จะมาสร้างอาณาจักรใหม่ของพระเจ้า “พระคริสต์” จึงเป็นชื่อตำแหน่ง ไม่ใช่ชื่อตัวบุคคล ผู้นิพนธ์พระวรสารสี่ท่านมักเรียกพระองค์ว่า “พระเยซู” และเพื่อให้แตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่ชื่อเหมือนกัน ก็เรียกเป็น “พระเยซูชาวนาซาเรธ” หรือ “พระเยซูบุตรของโยเซฟ” แต่นักบุญเปาโลหรือเปาโลอัครทูตมักเรียกพระองค์ว่า “พระคริสต์” หรือ “พระเยซูคริสต์” ที่เรียกว่า “พระคริสต์เยซู” ก็มี

slot