Category Archives: DOT

ฮิฟีสตัส

ฮิฟีสตัส เป็นเทพเจ้าแห่งช่างตีเหล็ก (blacksmith) ช่างฝีมือ ช่างศิลป์ ประติมากร โลหะ โลหะวิทยา (metallurgy) ไฟและภูเขาไฟ ภาคโรมัน คือ วัลแคน ในเทพปกรณัมกรีก ฮีฟีสตัสเป็นพระโอรสของซูสกับพระนางฮีรา หรือบางตำราก็ว่าท่านเกิดมาแต่เฉพาะเทวีฮีรา และมีแอฟโฟรไดทีเป็นชายา ฮิฟีสตัสเป็นเทพช่างตีเหล็ก ทรงประดิษฐ์อาวุธทั้งหมดของพระเจ้าบนโอลิมปัส พระองค์เป็นช่างตีเหล็กของเหล่าทวยเทพ และทรงได้รับการบูชาในศูนย์การผลิตและอุตสาหกรรมของกรีซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเอเธนส์ ลัทธิบูชาฮีฟีสตัสมีศูนย์กลางในเลมนอส ฮิฟีสตัสมีลักษณะเด่นคือเป็นเทพพิการ มีขาไม่สมประกอบ มีกริยาอาการเหมือนคนทุพพลภาพ และถือเครื่องมือช่างตลอดเวลา ท่านจึงได้รับฉายาเรียกหลายอย่างที่แสดงถึงลักษณะทางกายภาพอิหร่าน (เปอร์เซีย: ایران‎, อีรอน) หรือ เปอร์เซีย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (เปอร์เซีย: جمهوری اسلامی ايران‎) เป็นประเทศในเอเชียตะวันตก มีเขตแดนติดกับประเทศอาร์มีเนีย สาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัคโดยพฤตินัย และอาเซอร์ไบจานทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดประเทศคาซัคสถานและรัสเซียโดยมีทะเลแคสเปียนคั่น ติดประเทศเติร์กเมนิสถานทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถานทางทิศตะวันออก ติดอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมานทางทิศใต้ และติดประเทศตุรกีและอิรักทางทิศตะวันตก มีพื้นที่ดินแดน 1,648,195 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศใหญ่ที่สุดอันดับที่สองในตะวันออกกลางและอันดับที่ 18 ในโลก มีประชากร 78.4 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับที่ 17 ของโลก เป็นประเทศเดียวที่มีชายฝั่งทะเลแคสเปียนและมหาสมุทรอินเดีย ประเทศอิหร่านมีความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์มาช้านานเนื่องจากที่ตั้งอยู่ในกลางยูเรเชียและเอเชียตะวันตก และอยู่ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ อิหร่านเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลายที่มีกลุ่มชาติพันธุ์และภาษาต่าง ๆ มากมาย เปอร์เซียที่ใหญ่ที่สุด (61%) อาเซอร์ไบจาน (16%), เคิร์ด (10%) และ Lorestan (6%)

jumbo jili

ประเทศอิหร่านเป็นที่ตั้งของอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เริ่มต้นด้วยการตั้งราชอาณาจักรก่อนเอลาไมต์และเอลาไมต์ใน 3200–2800 ปีก่อน ค.ศ. ชาวมีดส์ (Medes) อิหร่านรวบรวมพื้นที่เป็นจักรวรรดิแห่งแรก ๆ ใน 625 ปีก่อน ค.ศ. หลังจากนั้นมีดส์กลายเป็นชาติวัฒนธรรมและการเมืองที่ครอบงำในภูมิภาค อิหร่านเรืองอำนาจถึงขีดสุดระหว่างจักรวรรดิอะคีเมนิดซึ่งพระเจ้าไซรัสมหาราชทรงก่อตั้งใน 550 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเมื่อแผ่อาณาเขตไพศาลที่สุดนั้นล้วนกินส่วนสำคัญของโลกโบราณ ตั้งแต่บางส่วนของคาบสมุทรบอลข่าน (เธรซ มาซิโดเนีย บัลแกเรีย พีโอเนีย) และยุโรปตะวันออกทางทิศตะวันตก จดลุ่มแม่น้ำสินธุทางทิศตะวันออก ทำให้เป็นจักรวรรดิใหญ่สุดในโลกในขณะนั้น จักรวรรดิล่มสลายใน 330 ปีก่อน ค.ศ. ให้หลังการพิชิตของอเล็กซานเดอร์มหาราช จักรวรรดิพาร์เธียกำเนิดขึ้นจากเถ้าถ่านแล้วต่อด้วยราชวงศ์แซสซานิดใน ค.ศ. 224 ซึ่งอิหร่านกลายเป็นชาตินำในโลกอีกครั้ง ร่วมกับจักรวรรดิโรมัน-ไบแซนไทน์ เป็นเวลากว่าสี่ศตวรรษ ค.ศ. 633 มุสลิมรอชิดีน (Rashidun) บุกครองอิหร่านและพิชิตได้ใน ค.ศ. 651 ซึ่งเข้าแทนที่ความเชื่อพื้นเมืองศาสนามาณีกีและศาสนาโซโรอัสเตอร์เป็นส่วนใหญ่ อิหร่านเป็นผู้มีส่วนสำคัญต่อยุคทองอิสลาม โดยผลิตนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ศิลปินและนักคิดทรงอิทธิพลจำนวนมาก การสถาปนาราชวงศ์ซาฟาวิดใน ค.ศ. 1501 ซึ่งส่งเสริมนิกายอิสนาอะชะรียะห์ (Twelver) เป็นศาสนาประจำชาติ เป็นเครื่องหมายจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์อิหร่านและมุสลิม เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1736 ภายใต้ชาห์นาเดอร์ อิหร่านมีอาณาเขตกว้างขวางที่สุดนับแต่จักรวรรดิแซสซานิด โดยเป็นจักรวรรดิที่แย้งได้ว่าทรงอำนาจที่สุดในโลกในเวลานั้นช่วงสั้น ๆ ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 อิหร่านเสียดินแดนหลายส่วนในคอเคซัสซึ่งถูกทำให้เป็นส่วนหนึ่งของมโนทัศน์อิหร่านหลายศตวรรษแก่จักรวรรดิรัสเซียเพื่อนบ้าน ความไม่สงบของประชาชนลงเอยด้วยการปฏิวัติรัฐธรรมนูญเปอร์เซีย ค.ศ. 1906 ซึ่งสถาปนาราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญและมาฮ์จิส (Majles) หรือรัฐสภาแห่งแรกของประเทศ หลังรัฐประหารที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาปลุกปั่นใน ค.ศ. 1953 อิหร่านค่อย ๆ กลายเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกที่เหลือ ยังเป็นฆราวาส แต่เป็นอัตตาณัติเพิ่มขึ้น ๆ ความเห็นแย้งที่เพิ่มขึ้นต่ออิทธิพลของต่างประเทศและการกดขี่ทางการเมืองลงเอยด้วยการปฏิวัติ ค.ศ. 1979 ซึ่งทำให้มีการสถาปนาสาธารณรัฐอิสลามเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1979

สล็อต

กรุงเตหะรานเป็นเมืองหลวงและนครใหญ่สุดของประเทศ ตลอดจนเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชั้นนำ ประเทศอิหร่านเป็นประเทศนำภูมิภาคและอำนาจปานกลางที่สำคัญ มีอิทธิพลพอสมควรในความมั่นคงทางพลังงานระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโลกจากการมีปริมาณเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์สำรองขนาดใหญ่ ซึ่งมีปริมาณแก๊สธรรมชาติสำรองมากที่สุดในโลกและมีน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วมากที่สุดเป็นอันดับสี่ มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศสะท้อนบางส่วนจากการมีมรดกโลกของยูเนสโก 19 แห่ง ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในทวีปเอเชียและ 12 ในโลก ประเทศอิหร่านเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ องค์การความร่วมมือเศรษฐกิจ ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด องค์การความร่วมมืออิสลามและโอเปก ระบบการเมืองของประเทศยึดตามรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1979 ซึ่งมีส่วนที่เป็นประชาธิปไตยระบบรัฐสภากับเทวาธิปไตยโดยนักนิติศาสตร์อิสลามภายใต้มโนทัศน์ผู้นำสูงสุด เป็นประเทศพหุวัฒนธรรมที่ประกอบด้วยหลายกลุ่มชาติพันธุ์และภาษา โดยผู้อยู่อาศัยส่วนมากนับถือนิกายชีอะฮ์อย่างเป็นทางการและภาษาเปอร์เซียเป็นภาษาราชการ อาเซอร์ไบจานเป็นที่ตั้งของภูมิประเทศที่หลากหลาย กว่าครึ่งหนึ่งของทวีปอาเซอร์ไบจานประกอบด้วยภูเขาสันเขา , ยอด , ที่ราบสูงและที่ราบซึ่งเพิ่มขึ้นถึงระดับ hypsometric ของ 400-1000 เมตร (รวมทั้งระดับกลางและล่างที่ราบลุ่ม) ในบางสถานที่ (Talis, Jeyranchol-Ajinohur และ Langabiz-Alat foreranges ) สูงถึง 100–120 เมตรและอื่น ๆ ตั้งแต่ 0–50 เมตรขึ้นไป ( Qobustan, Absheron ) ภูมิประเทศส่วนที่เหลือของอาเซอร์ไบจานประกอบด้วยที่ราบและที่ราบลุ่ม เครื่องหมาย Hypsometric ในภูมิภาค Caucasus แตกต่างกันไปตั้งแต่ −28 เมตรที่ชายฝั่งทะเลแคสเปียนสูงถึง 4,466 เมตร (ยอดเขาBazardüzü) การก่อตัวของสภาพภูมิอากาศในอาเซอร์ไบจานได้รับอิทธิพลโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมวลอากาศเย็นอาร์กติก ของแอนติไซโคลนสแกนดิเนเวียมวลอากาศเย็นของไซบีเรียแอนติไซโคลนและแอนติไซโคลนในเอเชียกลาง ภูมิทัศน์ที่หลากหลายของอาเซอร์ไบจานส่งผลต่อการที่มวลอากาศเข้ามาในประเทศ Greater Caucasus ปกป้องประเทศจากอิทธิพลโดยตรงของมวลอากาศเย็นที่มาจากทางเหนือ ซึ่งนำไปสู่การก่อตัวของภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนบนเชิงเขาและที่ราบส่วนใหญ่ของประเทศ ในขณะเดียวกันที่ราบและเชิงเขามีอัตราการแผ่รังสีดวงอาทิตย์

สล็อตออนไลน์

การก่อตัวของโครงสร้างของระบบการเมืองอาเซอร์ไบจานเสร็จสมบูรณ์โดยการยอมรับของใหม่รัฐธรรมนูญในวันที่ 12 พฤศจิกายน 1995 ตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญที่สัญลักษณ์ของรัฐของอาเซอร์ไบจานสาธารณรัฐเป็นธงที่แขนเสื้อและเพลงชาติอำนาจของรัฐในอาเซอร์ไบจานถูก จำกัด โดยกฎหมายสำหรับปัญหาภายในเท่านั้น แต่สำหรับกิจการระหว่างประเทศยังถูก จำกัด ด้วยบทบัญญัติของข้อตกลงระหว่างประเทศ รัฐธรรมนูญของอาเซอร์ไบจานระบุว่าเป็นสาธารณรัฐประธานาธิบดีที่มีอำนาจสามสาขา ได้แก่ ผู้บริหารนิติบัญญัติและตุลาการ อำนาจนิติบัญญัติจัดขึ้นโดยสมัชชาแห่งชาติหน่วยเดียว และที่ประชุมใหญ่สูงสุดแห่งชาติในสาธารณรัฐปกครองตนเองนัคชิวาน รัฐสภาของอาเซอร์ไบจานเรียกว่า Milli Majlis ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 125 คนที่ได้รับการเลือกตั้งจากคะแนนเสียงข้างมากโดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีสำหรับสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งแต่ละคน การเลือกตั้งจะจัดขึ้นทุก ๆ ห้าปีในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายน รัฐสภาไม่รับผิดชอบต่อการจัดตั้งรัฐบาล แต่รัฐธรรมนูญกำหนดให้คณะรัฐมนตรีของรัฐมนตรีได้รับความเห็นชอบโดย Milli Majlis พรรคอาเซอร์ไบจานใหม่และที่ปรึกษาที่ภักดีต่อรัฐบาลปกครองปัจจุบันมีที่นั่งเกือบทั้งหมด 125 ที่นั่งของรัฐสภา

jumboslot

ในระหว่างการเลือกตั้งรัฐสภาปี 2010พรรคฝ่ายค้านMusavatและAzerbaijani Popular Front Partyล้มเหลวในการคว้าที่นั่งเดียว ผู้สังเกตการณ์ยุโรปพบความผิดปกติต่าง ๆ นานาในการทำงานขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งและในวันเลือกตั้ง อำนาจบริหารจะจัดขึ้นโดยประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นระยะเวลาเจ็ดปีโดยการเลือกตั้งโดยตรงและนายกรัฐมนตรีประธานาธิบดีมีอำนาจในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีคณะผู้บริหารโดยรวมซึ่งรับผิดชอบต่อทั้งประธานาธิบดีและรัฐสภา คณะรัฐมนตรีของอาเซอร์ไบจานประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเจ้าหน้าที่และรัฐมนตรีเป็นหลัก ประธานาธิบดีไม่มีสิทธิ์ยุบสภาแห่งชาติ แต่มีสิทธิยับยั้งการตัดสินใจของตน ในการลบล้างการยับยั้งประธานาธิบดีรัฐสภาต้องมีคะแนนเสียงข้างมาก 95 เสียง อำนาจตุลาการจะตกเป็นของศาลรัฐธรรมนูญ , ศาลฎีกาและศาลทางเศรษฐกิจ ประธานาธิบดีเสนอชื่อผู้พิพากษาในศาลเหล่านี้รายงานของ European Commission for the Efficiency of Justice (CEPEJ) อ้างถึงรูปแบบความยุติธรรมของอาเซอร์ไบจันเกี่ยวกับการคัดเลือกผู้พิพากษาใหม่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดซึ่งสะท้อนถึงคุณลักษณะเฉพาะและแนวทางการพัฒนาเพื่อรับรองความเป็นอิสระและคุณภาพของตุลาการในระบอบประชาธิปไตยใหม่

slot

แอรีส

แอรีส ทรงเป็นเทพแห่งสงครามของกรีก ทรงเป็นหนึ่งในสิบสองพระเจ้าโอลิมปัส และพระโอรสของซูสและฮีรา ในวรรณกรรมกรีก เป็นสัญลักษณ์ของแง่มุมกายภาพหรือความรุนแรงและไม่สงบของสงคราม ขัดกับอะธีนา ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งปัญญา รวมทั้งยุทธศาสตร์การทหารและตำแหน่งอำนาจแม่ทัพ ชาวกรีกมีความรู้สึกไม่ชัดเจนต่อแอรีส เนื่องจากเทพแอรีสเป็นสัญลักษณะของความพ่ายแพ้เช่นเดียวกับความสามารถในสงครามแม้พระองค์จะทรงมีความกล้าทางกายซึ่งจำเป็นต่อความสำเร็จในสงคราม แต่เป็นพลังที่อันตราย “ท่วมท้น ละโมบในการยุทธ์ ทำลายล้างและฆ่าคน” ความกลัว (โฟบอส) และความสยองขวัญ (ไดมอส) พระโอรส และความแตกสามัคคี (เอนีโอ) คนรักและพระกนิษฐภคินี เดินทางไปกับพระองค์ด้วยบนรถม้าศึกในอีเลียด ซูสพระบิดาตรัสแก่แอรีสว่า พระองค์ทรงเป็นเทพที่ซูสเกลียดที่สุด สถานที่หรือวัตถุที่สัมพันธ์กับแอรีสทำให้สถานที่หรือวัตถุนั้นมีคุณภาพโหดร้าย อันตรายหรือเป็นทหาร คุณค่าของพระองค์ในฐานะเทพแห่งสงครามกลายเป็นที่กังขา เพราะในสงครามกรุงทรอย แอรีสทรงอยู่ข้างที่ปราชัย ขณะที่อะธีนา ซึ่งมักพรรณนาในศิลปะกรีกโดยถือชัยชนะ (ไนกี) อยู่ในพระหัตถ์ อยู่ฝ่ายกรีกผู้ชนะในศาสนาและเทพปกรณัมกรีก อะธีนา (อังกฤษ: Athena, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /əˈθinə/) หรือ อะธีนี (Athene) หรือ แพลลัสอธีนา/อะธีนี (Pallas Athena/Athene, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈpæləs/) เป็นเทพเจ้าพรหมจรรย์แห่งปัญญา ความกล้า แรงบันดาลใจ อารยธรรม กฎหมายและความยุติธรรม การสงครามโดยชอบ คณิตศาสตร์ ความแข็งแกร่ง ยุทธศาสตร์ ศิลปะ งานฝีมือและทักษะ ภาคโรมัน คือ มิเนอร์วา

jumbo jili

มีการพรรณนาอะธีนาว่าทรงเป็นพระสหายร่วมทางผู้เฉลียวฉลาดของวีรบุรุษและเทพเจ้าอุปถัมภ์การผจญภัยของวีรบุรุษ พระนางทรงเป็นเทพเจ้าพรหมจรรย์ผู้อุปถัมภ์กรุงเอเธนส์ ชาวเอเธนส์ตั้งวิหารพาร์เธนอนบนอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ (อะธีนาพาร์ธีนอส) เพื่อถวายเกียรติแด่พระนางแม้อะธีนาปรากฏที่คนอสซัสในอักษรไลเนียร์บีในพระเจ้าโอลิมปัสคลาสสิกก่อนหน้าซูส ภายหลังมีการสร้างใหม่ให้พระนางทรงเป็นพระธิดาองค์โปรดของซูส ซึ่งประสูติพร้อมอาวุธเต็มยศจากพระนลาฏ (หน้าผาก) นิยายกำเนิดของพระนางมีหลายฉบับ ฉบับหนึ่งที่มีการอ้างมากที่สุดเล่าวว่า ซูสหลับนอนกับมีทิส เทพีแห่งความคิดและภูมิปัญญาช่าง แต่พระองค์ทรงกลัวผลลัพธ์ในทันที มีการทำนายก่อนหน้านั้นว่ามีทิสจะประสูติบุตรที่ทรงพลังยิ่งกว่าบิดา แม้แต่ซูสเอง เพื่อป้องกันผลลัพธ์อันตรายนี้ หลังทรงโกหกมีทิสแล้ว ซูส “ฆ่าพระนางในพระอุทรของพระองค์เอง” พระองค์ “ทรงกลืนพระนางไปในทันที” ทว่า พระองค์ช้าเกินไป เพราะมีทิสตั้งครรภ์แล้ว ในที่สุด ซูสทรงปวดพระเศียรอย่างหนัก โพรมีเทียส ฮิฟีสตัส เฮอร์มีส แอรีสหรือพาเลมอน (แล้วแต่แหล่งข้อมูลที่พิจารณา) ผ่าเศียรของซูสด้วยขวานไมนวนสองหัว แล้วอะธีนาก็ทรงโจนออกจากเศียรของซูส โตเต็มที่และมีอาวุธ นายหญิงแห่งเอเธนส์ ตามตำนานกรีกเล่าว่า ที่มาของชื่อเมืองเอเธนส์ (Athens) นั้น มาจากการที่ชาวกรีกจะตั้งชื่อเมืองแต่ไม่รู้จะใช้ชื่ออะไร โพไซดอน เทพแห่งมหาสมุทร ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของอะธีนา ใช้ตรีศูลอาวุธของตนสร้างม้าขึ้นมา (บ้างก็ว่าสร้างน้ำพุขึ้น) ชาวเมืองต่างพากันชื่นชมม้าเป็นอันมาก แต่เทพีอะธีนาได้เนรมิตต้นมะกอกขึ้นมา ซึ่งสามารถใช้ผลเป็นประโยชน์ได้ นอกจากนี้ มะกอก ยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ในขณะที่ม้าเป็นสัญลักษณ์ของสงคราม ชาวเมืองจึงตกลงใช้ชื่อเมืองว่า เอเธนส์ ตามชื่อของพระนาง และมะกอกก็กลายเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญอันดับหนึ่งของกรีซมาจนปัจจุบัน

สล็อต

อาจกล่าวได้ว่า อะธีนา เป็นเทพที่ชาวกรีกให้ความนับถือมากที่สุดก็ว่าได้ ในสมัยโบราณมีการสร้างมหาวิหารเพื่อถวายแด่พระนาง คือ วิหารพาเธนอน ซึ่งตั้งอยู่ที่เนินอะโครโปลิส ที่กรุงเอเธนส์ในปัจจุบัน ในการท่องเที่ยวของกรีซ จะพบรูปปั้นขนาดเล็กของอะธีนาขายเป็นที่ระลึกอยู่ทั่วไป ในทางภูมิศาสตร์อาเซอร์ไบจานตั้งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัสใต้ของยูเรเซียโดยคร่อมเอเชียตะวันตกและยุโรปตะวันออก มันอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่38 องศาและ42 องศาและลองจิจูด44 °และ51 °อีความยาวรวมของพรมแดนทางบกของอาเซอร์ไบจานคือ 2,648 กม. (1,645 ไมล์) ซึ่ง 1,007 กิโลเมตรอยู่กับอาร์เมเนีย 756 กิโลเมตรกับอิหร่าน 480 กิโลเมตรกับจอร์เจีย 390 กิโลเมตรกับรัสเซียและ 15 กิโลเมตรกับตุรกี ชายฝั่งทะเลทอดยาว 800 กม. (497 ไมล์) และความยาวของพื้นที่ที่กว้างที่สุดของอาเซอร์ไบจานส่วนของทะเลแคสเปียนเป็น 456 กิโลเมตร (283 ไมล์) อาณาเขตของอาเซอร์ไบจานขยายออกไป 400 กม. (249 ไมล์) จากเหนือจรดใต้และ 500 กม. (311 ไมล์) จากตะวันตกไปตะวันออก ลักษณะทางกายภาพสามประการที่ครอบงำอาเซอร์ไบจาน: ทะเลแคสเปียนซึ่งมีชายฝั่งเป็นแนวเขตธรรมชาติทางทิศตะวันออก มหานครคอเคซัสเทือกเขาไปทางเหนือ; และพื้นที่ราบกว้างขวางใจกลางประเทศ นอกจากนี้ยังมีเทือกเขาสามแห่ง ได้แก่ Greater and Lesser CaucasusและTalysh Mountainsรวมกันครอบคลุมประมาณ 40% ของประเทศ ยอดเขาที่สูงที่สุดของอาเซอร์ไบจานคือMount Bazardüzü (4,466 ม.) ในขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ในทะเลแคสเปียน (−28 ม.) เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมดโคลนภูเขาไฟบนโลกมีความเข้มข้นในอาเซอร์ไบจาน, ภูเขาไฟเหล่านี้ก็ยังอยู่ในหมู่เสนอสำหรับNew7Wonders ของธรรมชาติ
แหล่งน้ำหลักคือน้ำผิวดิน อย่างไรก็ตามมีเพียง 24 จาก 8,350 แม่น้ำที่มีความยาวมากกว่า 100 กม. (62 ไมล์) แม่น้ำทั้งหมดไหลลงสู่ทะเลแคสเปียนทางตะวันออกของประเทศ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดคือSarysu (67 กม. 2 ) และแม่น้ำที่ยาวที่สุดคือKur (1,515 กม.) ซึ่งเป็นพรมแดนกับอาร์เมเนียอาเซอร์ไบจานมีหลายเกาะริมทะเลแคสเปี้ยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในบากูหมู่เกาะ

สล็อตออนไลน์

นับตั้งแต่การประกาศเอกราชของอาเซอร์ไบจานในปี 2534 รัฐบาลอาเซอร์ไบจานได้ดำเนินมาตรการเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของอาเซอร์ไบจาน การปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเร่งตัวขึ้นหลังจากปี 2544 เมื่องบประมาณของรัฐเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้ใหม่จากท่อส่งบากู – ทบิลิซี – เซย์ฮัน ภายในสี่ปีพื้นที่คุ้มครองเพิ่มขึ้นสองเท่าและตอนนี้มีพื้นที่แปดเปอร์เซ็นต์ของดินแดนของประเทศ ตั้งแต่ปี 2544 รัฐบาลได้ตั้งสำรองขนาดใหญ่เจ็ดแห่งและเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของภาคส่วนของงบประมาณที่จัดสรรเพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม อาเซอร์ไบจานเป็นที่ตั้งของภูมิประเทศที่หลากหลาย กว่าครึ่งหนึ่งของทวีปอาเซอร์ไบจานประกอบด้วยภูเขาสันเขา , ยอด , ที่ราบสูงและที่ราบซึ่งเพิ่มขึ้นถึงระดับ hypsometric ของ 400-1000 เมตร (รวมทั้งระดับกลางและล่างที่ราบลุ่ม) ในบางสถานที่ (Talis, Jeyranchol-Ajinohur และ Langabiz-Alat foreranges ) สูงถึง 100–120 เมตรและอื่น ๆ ตั้งแต่ 0–50 เมตรขึ้นไป ( Qobustan, Absheron ) ภูมิประเทศส่วนที่เหลือของอาเซอร์ไบจานประกอบด้วยที่ราบและที่ราบลุ่ม เครื่องหมาย Hypsometric ในภูมิภาค Caucasus แตกต่างกันไปตั้งแต่ −28 เมตรที่ชายฝั่งทะเลแคสเปียนสูงถึง 4,466 เมตร (ยอดเขาBazardüzü) การก่อตัวของสภาพภูมิอากาศในอาเซอร์ไบจานได้รับอิทธิพลโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมวลอากาศเย็นอาร์กติก ของแอนติไซโคลนสแกนดิเนเวียมวลอากาศเย็นของไซบีเรียแอนติไซโคลนและแอนติไซโคลนในเอเชียกลาง ภูมิทัศน์ที่หลากหลายของอาเซอร์ไบจานส่งผลต่อการที่มวลอากาศเข้ามาในประเทศ Greater Caucasus ปกป้องประเทศจากอิทธิพลโดยตรงของมวลอากาศเย็นที่มาจากทางเหนือ ซึ่งนำไปสู่การก่อตัวของภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนบนเชิงเขาและที่ราบส่วนใหญ่ของประเทศ ในขณะเดียวกันที่ราบและเชิงเขามีอัตราการแผ่รังสีดวงอาทิตย์สูง

jumboslot


อะธีนา เป็นเทพที่ชาวกรีกให้ความนับถือมากที่สุดก็ว่าได้ ในสมัยโบราณมีการสร้างมหาวิหารเพื่อถวายแด่พระนาง คือ วิหารพาเธนอน ซึ่งตั้งอยู่ที่เนินอะโครโปลิส ที่กรุงเอเธนส์ในปัจจุบัน ในการท่องเที่ยวของกรีซ จะพบรูปปั้นขนาดเล็กของอะธีนาขายเป็นที่ระลึกอยู่ทั่วไป ในทางภูมิศาสตร์อาเซอร์ไบจานตั้งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัสใต้ของยูเรเซียโดยคร่อมเอเชียตะวันตกและยุโรปตะวันออก มันอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่38 องศาและ42 องศาและลองจิจูด44 °และ51 °อีความยาวรวมของพรมแดนทางบกของอาเซอร์ไบจานคือ 2,648 กม. (1,645 ไมล์) ซึ่ง 1,007 กิโลเมตรอยู่กับอาร์เมเนีย 756 กิโลเมตรกับอิหร่าน 480 กิโลเมตรกับจอร์เจีย 390 กิโลเมตรกับรัสเซียและ 15 กิโลเมตรกับตุรกี ชายฝั่งทะเลทอดยาว 800 กม. (497 ไมล์) และความยาวของพื้นที่ที่กว้างที่สุดของอาเซอร์ไบจานส่วนของทะเลแคสเปียนเป็น 456 กิโลเมตร (283 ไมล์) อาณาเขตของอาเซอร์ไบจานขยายออกไป 400 กม. (249 ไมล์) จากเหนือจรดใต้และ 500 กม. (311 ไมล์) จากตะวันตกไปตะวันออก ลักษณะทางกายภาพสามประการที่ครอบงำอาเซอร์ไบจาน: ทะเลแคสเปียนซึ่งมีชายฝั่งเป็นแนวเขตธรรมชาติทางทิศตะวันออก มหานครคอเคซัสเทือกเขาไปทางเหนือ; และพื้นที่ราบกว้างขวางใจกลางประเทศ นอกจากนี้ยังมีเทือกเขาสามแห่ง ได้แก่ Greater and Lesser CaucasusและTalysh Mountainsรวมกันครอบคลุมประมาณ 40% ของประเทศ ยอดเขาที่สูงที่สุดของอาเซอร์ไบจานคือMount Bazardüzü (4,466 ม.) ในขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ในทะเลแคสเปียน (−28 ม.) เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมดโคลนภูเขาไฟบนโลกมีความเข้มข้นในอาเซอร์ไบจาน, ภูเขาไฟเหล่านี้ก็ยังอยู่ในหมู่เสนอสำหรับNew7Wonders ของธรรมชาติ

slot

ฮีบี (เทพปกรณัม)

ฮีบี เป็นเทพีในตำนานเทพเจ้ากรีกที่เทียบเท่ากับจูเวนทัสในตำนานเทพเจ้าโรมัน เทพีฮีบีเป็นเทพีแห่งความเยาว์วัยผู้เป็นบุตรีของเทพซูสและเทพีฮีรา ผู้มีตำแหน่งเป็นผู้ถวายพระสุทธารส (cupbearer) สำหรับเทพและเทพีแห่งยอดเขาโอลิมปัส คู่กับแกนีมีด จนกระทั่งแต่งงานกับเฮราคลีสประมวลเรื่องปรัมปรากรีก เป็นประมวลเรื่องปรัมปราของอารยธรรมกรีกโบราณ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับนิทานปรัมปราและตำนานที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้า, วีรบุรุษ, ธรรมชาติของโลก รวมถึงจุดกำเนิดและความสำคัญของขนบ คติและจารีตพิธีในทางศาสนาของชาวกรีกโบราณ ประมวลเรื่องปรัมปรากรีกเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาในกรีซโบราณ นักวิชาการสมัยใหม่มักอ้างถึงและศึกษาเรื่องปรัมปราเหล่านี้ เพื่อที่จะทราบเกี่ยวกับสถาบันทางศาสนา, สถาบันทางการเมืองในกรีซโบราณ, อารยธรรมของชาวกรีก และเพื่อเพิ่มความเข้าใจในธรรมชาติของการสร้างตำนานประมวลเรื่องปรัมปราขึ้น ประมวลเรื่องปรัมปรากรีกรวบรวมขึ้นจากเรื่องเล่าและศิลปะที่แสดงออกในวัฒนธรรมกรีก เช่น การระบายสีแจกันและของแก้บน ตำนานกรีกอธิบายถึงการถือกำเนิดของโลก และรายละเอียดของเรื่องราวในชีวิต และการผจญภัยของบรรดาเทพเจ้า เทพธิดา วีรบุรุษ วีรสตรี และสิ่งมีชีวิตในตำนานอื่น ๆ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ในตอนแรกเป็นเพียงการสืบทอดผ่านบทกวีตามประเพณีมุขปาฐะเท่านั้น ซึ่งอาจสืบย้อนหลังไปได้ถึงสมัยไมนอส และสมัยไมซีนี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ก่อนค.ศ. แต่ปัจจุบันเรื่องราวปรัมปราเหล่านี้ เราทราบจากวรรณกรรมกรีกโบราณทั้งสิ้น

jumbo jili

วรรณกรรมกรีกที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักกันคือ มหากาพย์ อีเลียด และ โอดิสซีย์ ของโฮเมอร์ ซึ่งจับเรื่องราวเหตุการณ์ในระหว่างสงครามเมืองทรอย นอกจากนี้มีบทกวีมหากาพย์ร่วมสมัยอีกสองชุดของเฮสิโอดกวีร่วมสมัยของโฮเมอร์ คือ ธีออโกนี และ งานและวัน เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดโลก พงศาวลีของผู้ปกครองกึ่งเทพ การผลัดเปลี่ยนยุคสมัยของมนุษย์ ต้นกำเนิดความทุกข์ยากของมนุษย์ และพิธีบูชายัญต่าง ๆ เรื่องเล่าปรัมปรายังพบได้ในบทเพลงสวดสรรเสริญของโฮเมอร์ (Homeric hymns) จากส่วนเสี้ยวที่หลงเหลือของบทกวีมหากาพย์ใน วัฎมหากาพย์ (Epic Cycle) จากบทร้อยกรองประกอบพิณ (lyric poems) จากงานละครโศกนาฏกรรมและสุขนาฎกรรมในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล จากงานเขียนของปราชญ์และกวีในยุคเฮเลนนิสติก และในตำราจากยุคของจักรวรรดิโรมันที่เขียนโดยพลูตาร์คกับเพาซานิอัส งานค้นพบของนักโบราณคดีเป็นแหล่งข้อมูลอย่างละเอียดของประมวลเรื่องปรัมปรากรีก เพราะมีภาพของเทพและวีรบุรุษกรีกมากมายเป็นเนื้อหาหลักอยู่ในการตกแต่งสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภาพเรขาคณิตบนเครื่องปั้นดินเผาในยุคศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาลแสดงให้เห็นฉากต่าง ๆ ในสงครามเมืองทรอย รวมไปถึงการผจญภัยของเฮราคลีส ในยุคต่อ ๆ มาเช่น กรีซยุคอาร์เคอิก ยุคคลาสสิก และสมัยเฮลเลนิสต์ ก็พบภาพฉากเกี่ยวกับมหากาพย์ของโฮเมอร์และตำนานปรัมปราอื่น ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มเติมแก่หลักฐานทางวรรณกรรมที่มีอยู่ พื้นที่ทางตอนเหนือของแม่น้ำอาราสซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานร่วมสมัยเป็นดินแดนของอิหร่านจนกระทั่งถูกรัสเซียยึดครองในศตวรรษที่ 19 เกี่ยวกับทศวรรษที่ผ่านมาต่อมาในการละเมิดสนธิสัญญา Gulistan รัสเซียบุกอิหร่านเยเรวานคานาเตะ สิ่งนี้จุดประกายให้เกิดการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างทั้งสองสงครามรัสเซีย – เปอร์เซียในปีพ . ศ. 2369–1828 สนธิสัญญา Turkmenchay ที่เกิดขึ้นบังคับให้Qajar อิหร่านยอมยกอำนาจอธิปไตยเหนือ Erivan Khanate, Nakhchivan Khanateและส่วนที่เหลือของLankaran คานาเตะ , ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนสุดท้ายของดินร่วมสมัยอาเซอร์ไบกที่ยังคงอยู่ในมือของอิหร่าน หลังจากการรวมดินแดนคอเคเชียนทั้งหมดจากอิหร่านเข้าสู่รัสเซียพรมแดนใหม่ระหว่างทั้งสองถูกตั้งไว้ที่แม่น้ำอาราสซึ่งหลังจากการสลายตัวของสหภาพโซเวียตต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพรมแดนระหว่างอิหร่านและสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน Qajar อิหร่านถูกบังคับให้ยกดินแดนคอเคเชียนให้กับรัสเซียในศตวรรษที่ 19 ซึ่งรวมถึงดินแดนของสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานในปัจจุบันในขณะที่ผลของการล่มสลายกลุ่มชาติพันธุ์อาเซอร์ไบจันในปัจจุบันถูกแยกออกระหว่างสองชาติ: อิหร่านและ อาเซอร์ไบจา อย่างไรก็ตามจำนวนชาวอาเซอร์ไบจานในอิหร่านมีจำนวนมากกว่าชาวอาเซอร์ไบจานที่อยู่ใกล้เคียง

สล็อต

ประมวลเรื่องปรัมปรากรีกมีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรม ศิลปะ และวรรณกรรมของอารยธรรมตะวันตก รวมถึงมรดกและภาษาทางตะวันตกด้วย กวีและศิลปินมากมายนับแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบันได้รับแรงบันดาลใจจากประมวลเรื่องปรัมปรากรีก และได้คิดค้นนัยยะร่วมสมัยกับการตีความใหม่ที่สัมพันธ์กับตำนานปรัมปราเหล่านี้[การค้นพบอารยธรรมไมซีนี โดยนักโบราณคดีสมัครเล่น ไฮน์ริช ชลีมาน ในศตวรรษที่ 19 และการค้นพบอารยธรรมไมนอสที่เกาะครีตโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ อาร์เธอร์ อีวานส์ ในศตวรรษที่ 20 มีส่วนช่วยอธิบายเกี่ยวกับมหากาพย์ของโฮเมอร์ และให้หลักฐานรับรองทางโบราณคดีเกี่ยวกับรายละเอียดของนิทานปรัมปราหลาย ๆ เรื่อง อย่างไรก็ดีหลักฐานเหล่านี้เป็นหลักฐานสิ่งปลูกสร้างและอนุสาวรีย์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีการใช้ตัวอักษรเขียนเพื่อจดบันทึกเรื่องราว และแผ่นจารึกไลเนียร์บีที่ขุดพบ ก็เป็นเพียงบันทึกเกี่ยวกับคลังเก็บสินค้าเท่านั้น การตกแต่งด้วยลวดลายเราขาคณิตบนเครื่องปั้นดินเผาสมัยศตวรรษที่ 8 ก่อนค.ศ. แสดงภาพเนื้อเรื่องของวัฎมหากาพย์กรุงทรอย และการผจญภัยของเฮราคลีส การแสดงออกเชิงประจักษ์ของเรื่องราวปรัมปราเหล่านี้มีความสำคัญสองประการ ประการแรก ตำนานปรัมปราส่วนใหญ่ปรากฏอยู่บนเครื่องปั้นดินเผารูปเขียนสี ก่อนที่จะมีหลักฐานทางวรรณคดีนานหลายศตวรรษ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของวีรกรรมสิบสองประการของเฮราคลีส มีแค่การผจญสุนัขปีศาจเคเบรอสเท่านั้นที่มีบันทึกไว้ในวรรณกรรมร่วมสมัย ประการที่สอง แหล่งข้อมูลเชิงประจักษ์บางครั้งแสดงรายละเอียด หรือฉากของเรื่องราวในตำนานที่ไม่ปรากฏอยู่ในแหล่งข้อมูลทางวรรณคดีใด ๆ เลย ในสมัยอาร์เคอิก (ปีที่ 750-500 ก่อนค.ศ.), สมัยคลาสสิก (ปีที่ 480-323 ก่อนค.ศ.), และสมัยเฮลเลนิสติก (ปีที่ 323-146 ก่อนค.ศ.) หลักฐานเชิงประจักษ์เหล่านี้มีบทบาทในการสนับสนุนและเพิ่มเติมหลักฐานทางวรรณคดี หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิรัสเซียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1มีการประกาศสาธารณรัฐสหพันธรัฐประชาธิปไตยทรานคอเคเชียนที่มีอายุสั้นซึ่งประกอบด้วยสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานจอร์เจียและอาร์เมเนียในปัจจุบัน มันตามมาด้วยมีนาคมวันสังหารหมู่ ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคมและวันที่ 2 เมษายน 1918 ในเมืองบากูและพื้นที่ใกล้เคียงของบากูเรทของจักรวรรดิรัสเซีย เมื่อสาธารณรัฐสลายตัวในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2461 พรรคมูซาวาตชั้นนำได้ประกาศเอกราชเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาเซอร์ไบจาน(ADR) ใช้ชื่อ “อาเซอร์ไบจาน” สำหรับสาธารณรัฐใหม่ ชื่อว่าก่อนที่จะประกาศของ ADR ถูกนำมาใช้ แต่เพียงผู้เดียวในการอ้างถึงที่อยู่ติดกันในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านร่วมสมัย ADR เป็นสาธารณรัฐรัฐสภาสมัยใหม่แห่งแรกในโลกมุสลิม ในบรรดาความสำเร็จที่สำคัญของรัฐสภาคือการขยายการให้สิทธิสตรีทำให้อาเซอร์ไบจานเป็นประเทศมุสลิมชาติแรกที่ให้สิทธิสตรีทางการเมืองเท่าเทียมกับผู้ชาย ความสำเร็จที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ ADR คือการก่อตั้งBaku State Universityซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสมัยใหม่แห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในมุสลิมตะวันออก

สล็อตออนไลน์

ประชากรก่อนเตอร์กที่อาศัยอยู่ในดินแดนของโมเดิร์นอาเซอร์ไบจานพูดหลายยูโรเปียนภาษาและคนผิวขาวในหมู่พวกเขาอาร์เมเนียและภาษาอิหร่าน , เก่าอาเซอร์ไบจานซึ่งเป็น ค่อยๆถูกแทนที่ด้วยภาษาเตอร์กซึ่งเป็นปูชนียบุคคลในยุคแรกของภาษาอาเซอร์ไบจันในปัจจุบัน นักภาษาศาสตร์บางคนระบุด้วยว่าภาษาถิ่น Tatiของอาเซอร์ไบจานอิหร่านและสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานเช่นเดียวกับที่ชาวทัตพูดนั้นสืบเชื้อสายมาจากอาเซอร์ซียุคเก่าในท้องถิ่นทรัพย์สินของจักรวรรดิเซลจุกที่ตามมาถูกปกครองโดยเอลดิกูซิดในทางเทคนิคข้าราชบริพารของสุลต่านเซลจุก แต่บางครั้งก็เป็นผู้ปกครองโดยพฤตินัยภายใต้ Seljuks กวีท้องถิ่นเช่นNizami GanjaviและKhaqaniก่อให้เกิดวรรณกรรมเปอร์เซียในดินแดนของอาเซอร์ไบจานในปัจจุบัน ราชวงศ์ท้องถิ่นของShirvanshahsกลายเป็นข้าราชบริพารของรัฐของมูร์เอ็มไพร์และช่วยเขาในการทำสงครามของเขากับผู้ปกครองของทองหมู่ ท็อคทามิชหลังการตายของมูร์, สองรัฐที่เป็นอิสระและคู่แข่งโผล่ออก: คาร่า KoyunluและAq Qoyunlu Shirvanshahs กลับมาโดยรักษามาหลายศตวรรษเพื่อให้มีเอกราชในระดับสูงในฐานะผู้ปกครองท้องถิ่นและข้าราชบริพารเหมือนที่เคยทำมาตั้งแต่ปี 861 ในปี 1501 ราชวงศ์ Safavidของอิหร่านได้ปราบ Shirvanshahs และได้ครอบครอง ในศตวรรษหน้า Safavids ได้เปลี่ยนประชากรซุนนีเดิมเป็น Shia Islam , เช่นเดียวกับที่ทำกับประชากรในอิหร่านยุคปัจจุบัน Safavids ได้รับอนุญาต Shirvanshahs จะยังคงอยู่ในอำนาจภายใต้วิดอำนาจจนกระทั่ง 1538 เมื่อวิดกษัตริย์ Tahmasp ฉัน (ร. 1524-1576) ปลดสมบูรณ์เขาและทำพื้นที่เข้ามาในจังหวัดวิดShirvanสุหนี่ออตโตมานสามารถยึดครองพื้นที่บางส่วนของอาเซอร์ไบจานในปัจจุบันอันเป็นผลมาจากสงครามออตโตมัน – ซาฟาวิดในปี 1578–1590 ; ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 พวกเขาถูกขับไล่โดยผู้ปกครองชาวอิหร่าน Safavid Abbas I (r. 1588–1629)

jumboslot

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของจักรวรรดิซาฟาวิดบากูและสภาพแวดล้อมถูกรัสเซียยึดครองในช่วงสั้น ๆ อันเป็นผลมาจากรัสเซียเปอร์เซียสงคราม 1722-1723 แม้จะมีการหยุดชะงักสั้น ๆ เช่นนี้โดยคู่แข่งใกล้เคียงของ Safavid Iran แต่ดินแดนของอาเซอร์ไบจานในปัจจุบันยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอิหร่านตั้งแต่การถือกำเนิดครั้งแรกของ Safavids จนถึงช่วงศตวรรษที่ 19 หลังจากSafavidsพื้นที่ดังกล่าวถูกปกครองโดยราชวงศ์อัฟชาริดของอิหร่านหลังจากการตายของNader Shah (r. 1736–1747) อดีตอาสาสมัครหลายคนของเขาใช้ประโยชน์จากการปะทุของความไม่มั่นคง หลายรูปแบบ- ปกครองตนเองkhanatesเอกราช ปรากฏขึ้นในพื้นที่ ผู้ปกครองของ khanates เหล่านี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับราชวงศ์ที่ปกครองของอิหร่านและเป็นข้าราชบริพารและอาสาสมัครของชาห์อิหร่าน ชาว khanates ใช้อำนาจควบคุมกิจการของตนผ่านเส้นทางการค้าระหว่างประเทศระหว่างเอเชียกลางและตะวันตก หลังจากนั้นเป็นต้นมาพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองต่อเนื่องของอิหร่านZandsและQajars จากปลายศตวรรษที่ 18 จักรวรรดิรัสเซียเปลี่ยนไปใช้จุดยืนทางการเมือง – การเมืองที่ก้าวร้าวมากขึ้นต่อเพื่อนบ้านสองคนและเป็นคู่แข่งทางใต้ ได้แก่ อิหร่านและจักรวรรดิออตโตมัน ขณะนี้รัสเซียพยายามเข้าครอบครองดินแดนคอเคซัสซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในมือของอิหร่า ในปี 1804 รัสเซียบุกเข้ามาและไล่เมืองอิหร่านกัญชา , ประกายเพชรสงครามรัสเซียเปอร์เซียของ 1804-1813 กองทัพรัสเซียที่มีอำนาจเหนือกว่ายุติสงครามรัสเซีย – เปอร์เซียปี 1804–1813 ด้วยชัยชนะ การปิดล้อมป้อมปราการ Ganja ในปี 1804ระหว่างสงครามรัสเซีย – เปอร์เซียปี 1804–1813 หลังจากที่สูญเสีย Qajar อิหร่านในสงคราม 1804-1813 ก็ถูกบังคับให้ยอมรับอำนาจเหนือมากที่สุดของ khanates พร้อมกับจอร์เจียและดาเกสถานกับจักรวรรดิรัสเซีย , ตามสนธิสัญญา Gulistan

slot

ฮีรา

ฮีร่า หรือ เฮร่า เป็นมเหสีและเชษฐภคินี (พี่สาว) ของซูสในพระเจ้าโอลิมปัสของเทพปกรณัมและศาสนากรีก เป็นธิดาของโครนัสและเรีย หน้าที่หลักของพระนางคือเป็นเทพเจ้าแห่งสตรีและการสมรส ภาคโรมัน คือ จูโน พิจารณาว่าวัว สิงโตและนกยูงเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ประจำพระองค์ ฮีร่าเป็นที่รู้จักจากธรรมชาติอิจฉาและพยาบาทของพระนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชายาองค์อื่น ๆ ของซูส และบุตรที่เกิดจากชายาเหล่านั้น ไม่ว่าพวกนางเป็นเทพเจ้าหรือมนุษย์ก็ตาม ตัวอย่างของผู้ที่ถูกฮีร่าปองร้ายมีมากมาย เช่น ลีโต มารดาของเทพอพอลโลและเทพีอาร์ทิมิส เฮราคลีส ไอโอ ลามิอา เกรานา ซิมิลี มารดาของเทพไดอะไนซัส ยูโรปา เป็นต้น ก็จะเจอจุดจบแบบไม่สวยงาม ในมหากาพย์อีเลียด ของ โฮเมอร์ ได้กล่าวถึงพระนางว่า เทพีตาวัว (ox-eyed goddess) ซึ่งแสดงถึงสัตว์ประจำตัวของฮีรานั่นเองฮีราเป็นบุตรองค์ที่ 3 ของโครนัสและเรีย พระนางถูกโครนัสกลืนลงท้องไปตั้งแต่เพิ่งถือกำเนิดเนื่องจากคำสาปของไกอาที่ว่าบุตรของโครนัสจะโค่นอำนาจของโครนัสเหมือนกับที่โครนัสได้โค่นอำนาจของยูเรนัส แต่ต่อมาเทพีเรียได้ซ่อนซูสผู้เป็นบุตรองค์สุดท้องไว้และนำซีอุสกลับมาเพื่อแก้แค้นโครนัส และนำพี่ ๆ ที่ถูกกลืนเข้าไปอยู่ในท้องของโครนัสออกมา เทพีฮีราจึงปรากฏกายขึ้น เชื่อกันว่าเทพีฮีราถูกเลี้ยงดูมาโดยไททันทีธิส และมหากาพย์อิเลียด ในครั้งที่ฝ่ายทรอยกำลังได้เปรียบเพราะซูสได้หนีจากเขาโอลิมปัสไปยังเขาไอดาเพื่อให้การช่วยเหลือชาวทรอย ฮีราได้อ้างว่าจะไปพบกับเทพีทีธิส เพื่อจะได้ขอยืมเครื่องแต่งกายที่สวยที่สุดจากอะธีน่าและสร้อยคอแห่งความปรารถนาจากอะโฟรไดท์ไปใช้ในการล่อลวงให้ซูสหันเหความสนใจจากสงครามแห่งทรอย เปิดทางให้โพไซดอนได้นำกำลังไปถล่มชายฝั่งทรอย

jumbo jili

ฮีราและซูส บางตำนานได้กล่าวว่าเมื่อเหล่าเทพโอลิมเปียนได้เอาชนะโครนัสและย้ายขึ้นมาสร้างวิมานบนเทือกเขาโอลิมปัสแล้ว ซูสก็ได้เสาะหาหญิงงามผู้คู่ควรกับตำแหน่งราชินีแห่งเทพทั้งมวล และในที่สุดพระองค์ก็ตัดสินใจเลือกเทพีฮีรา พระเชษฐ์ภคินีของตนเอง ฮีราไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ และขังตนเองอยู่ในวิหารเพื่อหนีการสมรสกับมหาเทพแห่งโอลิมปัส ซูสจึงปลอมตัวเป็นนกเขาบาดเจ็บบินเข้าไปซบอุระของฮีรา และแน่นอนว่าเทพีผู้อ่อนหวานจะต้องนำนกตัวนั้นเข้าไปพยาบาลในวิหารแน่นอน เมื่อทั้งคู่เข้าไปในวิหารของฮีราแล้ว ซูสก็กลับร่างเป็นมหาเทพและรวบรัดฮีราเป็นราชินีของพระองค์ฮีรามีบุตรทั้งหมด ดังนี้ ฮีบี (Hebe) เทพธิดาแห่งความเยาว์วัย ได้รับหน้าที่ ให้ถือถ้วยของเทพเจ้า จนถูกปลด ให้เจ้าชาย แกนิมีดทำแทน เนื่องจากนาง แสดงความหยาบคาย ในงานที่จัดขึ้น ที่โอลิมปุสงานหนึ่ง
อิลิธียา (Eileithyia) ในตำนานโรมัน ซึ่งเป็นเทพีแห่งการให้กำเนิดทารก แอรีส (Ares) เทพเจ้าแห่งสงคราม อีริส (Eris) เทพธิดาแห่งการวิวาทบาดหมาง ฝาแฝดของแอรีส ฮิฟีสตัส (Hephaestus) เทพแห่งการช่าง บางตำนานกล่าวว่าฮีราอิจฉาที่ซูสสามารถให้กำเนิดบุตรด้วยตนเองได้ นั่นคืออะธีนา นางจึงสร้างฮิฟีสตัส ขึ้นมาด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากซูส แต่เมื่อฮิฟีสตัสถือกำเนิดขึ้นนางก็โยนบุตรชายลงจากยอดเขาโอลิมปัสเนื่องจากรังเกียจรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ของฮิฟีสตัส ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ฮิฟีสตัสกลายเป็นเทพที่มีขาพิการ ภายหลังฮิฟีสตัสแก้แค้นพระมารดาด้วยการสร้างบัลลังก์ทองที่แสนสวยงามให้ฮีรา แต่เมื่อนางนั่งลงบนบัลลังก์ทองนั้นแล้วกลับลุกขึ้นมาไม่ได้อีกเลย เทพโอลิมปัสร่วมกันอ้อนวอนให้ฮิฟีสตัสกลับขึ้นมาอยู่บนเทือกเขาโอลิมปัสและให้อภัยพระมารดา แต่ฮิฟีสตัสไม่ยอม ในที่สุดเหล่าเทพจึงส่งเทพไดอะไนซัส เทพแห่งเหล้าองุ่น ให้มอมเหล้าฮิฟีสตัสและนำเขาขึ้นมายังยอดเขาโอลิมปัส ทำให้คำสาปเรื่องบัลลังก์ทองเสื่อมไป เทพีฮีราจึงได้ลุกขึ้นจากบัลลังก์อีกครั้ง

สล็อต

ประชากรก่อนเตอร์กที่อาศัยอยู่ในดินแดนของโมเดิร์นอาเซอร์ไบจานพูดหลายยูโรเปียนภาษาและคนผิวขาวในหมู่พวกเขาอาร์เมเนีย และภาษาอิหร่าน , เก่าอาเซอร์ไบจานซึ่งเป็น ค่อยๆถูกแทนที่ด้วยภาษาเตอร์กซึ่งเป็นปูชนียบุคคลในยุคแรกของภาษาอาเซอร์ไบจันในปัจจุบัน นักภาษาศาสตร์บางคนระบุด้วยว่าภาษาถิ่น Tatiของอาเซอร์ไบจานอิหร่านและสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานเช่นเดียวกับที่ชาวทัตพูดนั้นสืบเชื้อสายมาจากอาเซอร์ซียุคเก่า ในท้องถิ่นทรัพย์สินของจักรวรรดิเซลจุกที่ตามมาถูกปกครองโดยเอลดิกูซิดในทางเทคนิคข้าราชบริพารของสุลต่านเซลจุก แต่บางครั้งก็เป็นผู้ปกครองโดยพฤตินัยภายใต้ Seljuks กวีท้องถิ่นเช่นNizami GanjaviและKhaqaniก่อให้เกิดวรรณกรรมเปอร์เซียในดินแดนของอาเซอร์ไบจานในปัจจุบัน ราชวงศ์ท้องถิ่นของShirvanshahsกลายเป็นข้าราชบริพารของรัฐของมูร์เอ็มไพร์และช่วยเขาในการทำสงครามของเขากับผู้ปกครองของทองหมู่ ท็อคทามิชหลังการตายของมูร์, สองรัฐที่เป็นอิสระและคู่แข่งโผล่ออก: คาร่า KoyunluและAq Qoyunlu Shirvanshahs กลับมาโดยรักษามาหลายศตวรรษเพื่อให้มีเอกราชในระดับสูงในฐานะผู้ปกครองท้องถิ่นและข้าราชบริพารเหมือนที่เคยทำมาตั้งแต่ปี 861 ในปี 1501 ราชวงศ์ Safavidของอิหร่านได้ปราบ Shirvanshahs และได้ครอบครอง ในศตวรรษหน้า Safavids ได้เปลี่ยนประชากรซุนนีเดิมเป็น Shia Islam , เช่นเดียวกับที่ทำกับประชากรในอิหร่านยุคปัจจุบัSafavids ได้รับอนุญาต Shirvanshahs จะยังคงอยู่ในอำนาจภายใต้วิดอำนาจจนกระทั่ง 1538 เมื่อวิดกษัตริย์ Tahmasp ฉัน (ร. 1524-1576) ปลดสมบูรณ์เขาและทำพื้นที่เข้ามาในจังหวัดวิดShirvanสุหนี่ออตโตมานสามารถยึดครองพื้นที่บางส่วนของอาเซอร์ไบจานในปัจจุบันอันเป็นผลมาจากสงครามออตโตมัน – ซาฟาวิดในปี 1578–1590 ; ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 พวกเขาถูกขับไล่โดยผู้ปกครองชาวอิหร่าน Safavid Abbas I (r. 1588–1629) หลังจากการสิ้นพระชนม์ของจักรวรรดิซาฟาวิดบากูและสภาพแวดล้อมถูกรัสเซียยึดครองในช่วงสั้น ๆ อันเป็นผลมาจากรัสเซียเปอร์เซียสงคราม 1722-1723 แม้จะมีการหยุดชะงักสั้น ๆ เช่นนี้โดยคู่แข่งใกล้เคียงของ Safavid Iran แต่ดินแดนของอาเซอร์ไบจานในปัจจุบันยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอิหร่านตั้งแต่การถือกำเนิดครั้งแรกของ Safavids จนถึงช่วงศตวรรษที่ 19

สล็อตออนไลน์

ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ดินแดนของ khanates (และสุลต่าน) ในศตวรรษที่ 18-19 หลังจากSafavidsพื้นที่ดังกล่าวถูกปกครองโดยราชวงศ์อัฟชาริดของอิหร่านหลังจากการตายของNader Shah (r. 1736–1747) อดีตอาสาสมัครหลายคนของเขาใช้ประโยชน์จากการปะทุของความไม่มั่นคง หลายรูปแบบ- ปกครองตนเองkhanatesเอกราช ปรากฏขึ้นในพื้นที่ ผู้ปกครองของ khanates เหล่านี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับราชวงศ์ที่ปกครองของอิหร่านและเป็นข้าราชบริพารและอาสาสมัครของชาห์อิหร่าน ชาว khanates ใช้อำนาจควบคุมกิจการของตนผ่านเส้นทางการค้าระหว่างประเทศระหว่างเอเชียกลางและตะวันตกหลังจากนั้นเป็นต้นมาพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองต่อเนื่องของอิหร่านZandsและQajars จากปลายศตวรรษที่ 18 จักรวรรดิรัสเซียเปลี่ยนไปใช้จุดยืนทางการเมือง – การเมืองที่ก้าวร้าวมากขึ้นต่อเพื่อนบ้านสองคนและเป็นคู่แข่งทางใต้ ได้แก่ อิหร่านและจักรวรรดิออตโตมัน ขณะนี้รัสเซียพยายามเข้าครอบครองดินแดนคอเคซัสซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในมือของอิหร่านในปี 1804 รัสเซียบุกเข้ามาและไล่เมืองอิหร่านกัญชา , ประกายเพชรสงครามรัสเซียเปอร์เซียของ 1804-1813 กองทัพรัสเซียที่มีอำนาจเหนือกว่ายุติสงครามรัสเซีย – เปอร์เซียปี 1804–1813 ด้วยชัยชนะ การปิดล้อมป้อมปราการ Ganja ในปี 1804ระหว่างสงครามรัสเซีย – เปอร์เซียปี 1804–1813 หลังจากที่สูญเสีย Qajar อิหร่านในสงคราม 1804-1813 ก็ถูกบังคับให้ยอมรับอำนาจเหนือมากที่สุดของ khanates พร้อมกับจอร์เจียและดาเกสถานกับจักรวรรดิรัสเซีย , ตามสนธิสัญญา Gulistan

jumboslot

พื้นที่ทางตอนเหนือของแม่น้ำอาราสซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานร่วมสมัยเป็นดินแดนของอิหร่านจนกระทั่งถูกรัสเซียยึดครองในศตวรรษที่ 19เกี่ยวกับทศวรรษที่ผ่านมาต่อมาในการละเมิดสนธิสัญญา Gulistan รัสเซียบุกอิหร่านเยเรวานคานาเตะ สิ่งนี้จุดประกายให้เกิดการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างทั้งสองสงครามรัสเซีย – เปอร์เซียในปีพ . ศ. 2369–1828 สนธิสัญญา Turkmenchay ที่เกิดขึ้นบังคับให้Qajar อิหร่านยอมยกอำนาจอธิปไตยเหนือ Erivan Khanate, Nakhchivan Khanateและส่วนที่เหลือของLankaran คานาเตะ , ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนสุดท้ายของดินร่วมสมัยอาเซอร์ไบกที่ยังคงอยู่ในมือของอิหร่าน หลังจากการรวมดินแดนคอเคเชียนทั้งหมดจากอิหร่านเข้าสู่รัสเซียพรมแดนใหม่ระหว่างทั้งสองถูกตั้งไว้ที่แม่น้ำอาราสซึ่งหลังจากการสลายตัวของสหภาพโซเวียตต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพรมแดนระหว่างอิหร่านและสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน Qajar อิหร่านถูกบังคับให้ยกดินแดนคอเคเชียนให้กับรัสเซียในศตวรรษที่ 19 ซึ่งรวมถึงดินแดนของสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานในปัจจุบันในขณะที่ผลของการล่มสลายกลุ่มชาติพันธุ์อาเซอร์ไบจันในปัจจุบันถูกแยกออกระหว่างสองชาติ: อิหร่านและ อาเซอร์ไบจาน. อย่างไรก็ตามจำนวนชาวอาเซอร์ไบจานในอิหร่านมีจำนวนมากกว่าชาวอาเซอร์ไบจานที่อยู่ใกล้เคียง หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิรัสเซียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1มีการประกาศสาธารณรัฐสหพันธรัฐประชาธิปไตยทรานคอเคเชียนที่มีอายุสั้นซึ่งประกอบด้วยสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานจอร์เจียและอาร์เมเนียในปัจจุบัน มันตามมาด้วยมีนาคมวันสังหารหมู่ ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคมและวันที่ 2 เมษายน 1918 ในเมืองบากูและพื้นที่ใกล้เคียงของบากูเรทของจักรวรรดิรัสเซีย เมื่อสาธารณรัฐสลายตัวในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2461 พรรคมูซาวาตชั้นนำได้ประกาศเอกราชเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาเซอร์ไบจาน(ADR) ใช้ชื่อ “อาเซอร์ไบจาน” สำหรับสาธารณรัฐใหม่ ชื่อว่าก่อนที่จะประกาศของ ADR ถูกนำมาใช้ แต่เพียงผู้เดียวในการอ้างถึงที่อยู่ติดกันในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านร่วมสมัย ADR เป็นสาธารณรัฐรัฐสภาสมัยใหม่แห่งแรกในโลกมุสลิม ในบรรดาความสำเร็จที่สำคัญของรัฐสภาคือการขยายการให้สิทธิสตรีทำให้อาเซอร์ไบจานเป็นประเทศมุสลิมชาติแรกที่ให้สิทธิสตรีทางการเมืองเท่าเทียมกับผู้ชาย ความสำเร็จที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ ADR คือการก่อตั้งBaku State Universityซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสมัยใหม่แห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในมุสลิมตะวันออก

slot

จูปิเตอร์ (เทพปกรณัม)

จูปิเตอร์ หรือโจฟ ทรงเป็นราชาแห่งพระเจ้าและเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าและฟ้าผ่าในเรื่องปรัมปรา จูปิเตอร์ทรงเป็นพระเจ้าหลักของศาสนารัฐโรมันตลอดสมัยสาธารณรัฐและจักรวรรดิ จนศาสนาคริสต์กลายเป็นศาสนาครอบงำในจักรวรรดิ ในเทพปกรณัมโรมัน พระองค์ทรงเจรจากับนูมา ปอมปีลีอัส พระมหากษัตริย์โรมพระองค์ที่สอง เพื่อสถาปนาหลักการของศาสนาโรมันอย่างการบูชายัญ ปกติคาดว่าจูปิเตอร์กำเนิดขึ้นเป็นเทพเจ้าท้องฟ้า สิ่งที่บอก คือ ฟ้าผ่า และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์หลักของพระองค์ คือ นกอินทรี ซึ่งถือว่าดีกว่านกอื่นในการยึดลาง (augury) และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้บ่อยที่สุดอันหนึ่งของกองทัพโรมัน สองสัญลักษณ์นี้มักรวมกันเพื่อแสดงจูปิเตอร์ในรูปอินทรีกำฟ้าผ่าในกรงเล็บ ซึ่งเห็นได้บ่อยในเหรียญกรีกและโรมัน ในฐานะเทพเจ้าท้องฟ้า พระองค์ทรงเป็นพยานศักดิ์สิทธิ์ของคำสาบาน ความไว้วางใจศักดิ์สิทธิ์ซึ่งความยุติธรรมและธรรมาภิบาลยึดถือ หลายหน้าที่ของพระองค์ได้รับความสนใจบนเนินแคพิทะไลน์ (“เนินรัฐสภา”) อันเป็นที่ตั้งของป้อม พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าหลักในสามแคพิทะไลน์ (Capitoline Triad) ช่วงต้นร่วมกับมาร์สและควิไรนัส ในสามแคพิทะไลน์ช่วงหลัง พระองค์ทรงเป็นผู้พิทักษ์กลางของรัฐร่วมกับจูโนและมิเนอร์วา ไม้ต้นศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ คือ โอ๊ก ชาวโรมันถือว่าจูปิเตอร์เทียบเท่าซูสของกรีก และในวรรณคดีละตินและศิลปะโรมัน รับเรื่องปรัมปราและสัญรูปของซูสมาภายใต้พระนาม Iuppiter ในประเพณีที่ได้รับอิทธิพลจากกรีก จูปิเตอร์ทรงเป็นพระอนุชาของเนปจูนและพลูโต ซึ่งทรงเป็นประธานเหนือหนึ่งในสามอาณาเขตแห่งเอกภพ อันได้แก่ ท้องฟ้า มหาสมุทรและโลกบาดาล มักถือว่า ทิเนียเป็นภาคอิทรัสคันศาสนาคริสต์ (อังกฤษ: Christianity) ราชบัณฑิตยสถานเรียกว่า คริสต์ศาสนา เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม ที่มีพื้นฐานมาจากชีวิตและการสอนของพระเยซูตามที่ปรากฏในพระวรสารในสารบบ (canonical gospel) และงานเขียนพันธสัญญาใหม่อื่น ๆผู้นับถือศาสนาคริสต์เรียกว่าคริสต์ศาสนิกชนหรือคริสตชน

jumbo jili

คริสตชนเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าผู้มาบังเกิดเป็นมนุษย์และเป็นพระผู้ไถ่ ด้วยเหตุนี้ คริสตชนจึงมักเรียกพระเยซูว่า “พระคริสต์” หรือ “พระเมสสิยาห์” ศาสนาคริสต์ปัจจุบันแบ่งเป็นสามนิกายใหญ่ คือ โรมันคาทอลิก อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโปรเตสแตนต์ ซึ่งยังแบ่งนิกายย่อยได้อีกหลายนิกาย เขตอัครบิดรโรมันคาทอลิกและออร์ทอดอกซ์แยกออกจากกันในช่วงศาสนเภทตะวันออก-ตะวันตก (East–West Schism) ใน ค.ศ. 1054 และนิกายโปรเตสแตนต์เกิดขึ้นหลังการปฏิรูปศาสนาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งแยกตัวออกจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก ศาสนาคริสต์ในช่วงแรกถือเป็นนิกายหนึ่งของศาสนายูดาห์เมื่อกลางคริสต์ศตวรรษที่ 1 โดยถือกำเนิดขึ้นในชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตะวันออกของตะวันออกกลาง (ปัจจุบัน คือ อิสราเอลและปาเลสไตน์) ไม่นานก็แผ่ขยายไปยังซีเรีย เมโสโปเตเมีย เอเชียไมเนอร์ และอียิปต์ ศาสนาคริสต์มีขนาดและอิทธิพลเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ทศวรรษ และจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 4 ได้กลายมาเป็นศาสนาประจำชาติจักรวรรดิโรมัน ระหว่างสมัยกลาง ดินแดนยุโรปที่เหลือส่วนมากรับศาสนาคริสต์แล้ว แต่บางภูมิภาค เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ เอธิโอเปีย และบางส่วนของประเทศอินเดีย คริสตชนยังถือเป็นศาสนิกชนกลุ่มน้อย หลังยุคสำรวจ ศาสนาคริสต์ได้แผ่ขยายไปยังทวีปอเมริกา ออสตราเลเซีย แอฟริกาใต้สะฮารา และส่วนที่เหลือของโลกผ่านงานมิชชันนารีและการล่าอาณานิคม

สล็อต

คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าพระเยซูคือพระเมสสิยาห์ที่พยากรณ์ไว้ในคัมภีร์ฮีบรู ซึ่งในศาสนาคริสต์เรียกว่า “พันธสัญญาเดิม” พื้นฐานเทววิทยาศาสนาคริสต์นั้นแสดงออกมาในหลักข้อเชื่อสากล (ecumenical creed) ที่มีมาตั้งแต่ศาสนาคริสต์ยุคแรก และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในบรรดาคริสต์ศาสนิกชน การประกาศความเชื่อนี้มีอยู่ว่า พระเยซูทรงรับพระทรมาน สิ้นพระชนม์ และถูกฝังไว้ ก่อนจะคืนพระชนม์เพื่อให้ชีวิตนิรันดร์แก่ผู้ที่เชื่อในพระองค์และไว้วางใจว่าพระองค์เป็นผู้ไถ่บาป พวกเขายังเชื่ออีกว่าพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ที่ซึ่งพระองค์ทรงควบคุมและปกครองรวมกับพระเจ้าพระบิดา นิกายส่วนใหญ่สอนว่าพระเยซูจะกลับมาพิพากษามนุษย์ทุกคน ทั้งคนเป็นและคนตาย และให้ชีวิตนิรันดร์แก่สาวกของพระองค์ พระองค์ทรงถูกมองว่าเป็นแบบอย่างของชีวิตอันดีงาม และเป็นทั้งผู้เผยพระวจนะและเป็นพระเจ้าลงมารับสภาพมนุษย์ ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ศาสนาคริสต์มีศาสนิกชนประมาณ 2.4 พันล้านคนทั่วโลก คิดเป็นประมาณ 33% หรือหนึ่งในสี่ถึงหนึ่งในสามของประชากรโลก และเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นศาสนาประจำชาติในหลายประเทศ คนแรกฆราวาสประชาธิปไตยรัฐมุสลิมส่วนใหญ่ ในปี 1920 ประเทศที่ถูกรวมอยู่ในสหภาพโซเวียตในขณะที่อาเซอร์ไบจานสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานยุคใหม่ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2534 ไม่นานก่อนการสลายตัวของสหภาพโซเวียตในปีเดียวกัน ในเดือนกันยายนปี 1991 ส่วนอาร์เมเนียที่ขัดแย้งคาราบาคห์ภูมิภาคถอนตัวในรูปแบบสาธารณรัฐ Artsakh ภูมิภาคและเจ็ดเขตโดยรอบซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจานอยู่ระหว่างการแก้ปัญหาสถานะของ Nagorno-Karabakh ผ่านการเจรจาที่อำนวยความสะดวกโดยOSCEกลายเป็นอิสระโดยพฤตินัยเมื่อสิ้นสุดสงคราม Nagorno-Karabakh ครั้งแรกในปี 1994 หลังจากสงคราม Nagorno-Karabakhในปี2020เขตทั้งเจ็ดและบางส่วนของNagorno-Karabakhก็ถูกส่งกลับไปยังการควบคุมของอาเซอร์ไบจัน อาเซอร์ไบจานเป็นรวม กึ่งประธานาธิบดี สาธารณรัฐเป็นหนึ่งในหกรัฐเตอร์กที่เป็นอิสระและเป็นสมาชิกที่แข็งขันของTurkic CouncilและชุมชนTÜRKSOYอาเซอร์ไบจานมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 182 ประเทศและถือเป็นสมาชิกใน 38 องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งสหประชาชาติ (ตั้งแต่ปี 1992) ที่สภายุโรปที่ไม่ใช่แนวทางเคลื่อนไหวที่โอเอสและนาโตหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพ (PFP) โปรแกรม. เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งGUAM , the เครือรัฐเอกราช (CIS) และองค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมีอาเซอร์ไบจานยังถือสถานะผู้สังเกตการณ์ในองค์การการค้าโลก

สล็อตออนไลน์

ในขณะที่รอบ ๆ 97% ของประชากรที่เป็นชาวมุสลิม , รัฐธรรมนูญของอาเซอร์ไบจานไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการศาสนาและทุกกองกำลังทางการเมืองที่สำคัญในประเทศที่มีsecularistอาเซอร์ไบจานเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและอันดับที่ 87 ในดัชนีการพัฒนามนุษย์ แต่ก็มีอัตราที่สูงของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และความรู้ , เช่นเดียวกับอัตราที่ต่ำของการว่างงาน อย่างไรก็ตามพรรคอาเซอร์ไบจานใหม่ซึ่งอยู่ในอำนาจตั้งแต่ปี 2536 ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำแบบเผด็จการและความเสื่อมโทรมของบันทึกสิทธิมนุษยชนของประเทศรวมถึงการเพิ่มข้อ จำกัด ด้านสิทธิเสรีภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเสรีภาพสื่อมวลชนและการปราบปรามทางการเมือง อย่างเป็นทางการในศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของรัฐในศตวรรษที่ 4 แม้จะมีการปกครองของซาสซานิด แต่แอลเบเนียยังคงเป็นหน่วยงานในภูมิภาคจนถึงศตวรรษที่ 9 ในขณะที่อยู่ใต้อำนาจของซาสซานิดอิหร่านและยังคงรักษาระบอบกษัตริย์ไว้ แม้จะเป็นหนึ่งในข้าราชบริพารของจักรพรรดิ Sasanian แต่กษัตริย์แอลเบเนียก็มีเพียงแค่ผู้มีอำนาจเท่านั้น

jumboslot

และ Sasanian marzban (ผู้ปกครองทางทหาร) ถืออำนาจทางพลเรือนศาสนาและการทหารมากที่สุด ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 7 คนผิวขาวแอลเบเนียเป็นข้าราชบริพารของ Sasanians ที่มาภายใต้การปกครองของชาวมุสลิมเล็กน้อยเนื่องจากการที่มุสลิมพิชิตเปอร์เซีย ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ล้วนทั้ง Sasanians และไบเซนไทน์จากTranscaucasiaและหันคนผิวขาวแอลเบเนียเป็นรัฐศักดินาหลังจากต้านทานคริสเตียนนำโดยกษัตริย์จาวานเชียร์ได้ถูกยกเลิกใน 667 พลังดูดที่เหลือจากการลดลงของซิตหัวหน้าศาสนาอิสลามก็เต็มไปโดยราชวงศ์ท้องถิ่นมากมายเช่น ในฐานะSallarids , SajidsและShaddadids. ในตอนต้นของศตวรรษที่ 11 ดินแดนนี้ค่อยๆถูกยึดโดยคลื่นของOghuz Turksจากเอเชียกลางซึ่งใช้ชาติพันธุ์ Turkomanในเวลานั้น ราชวงศ์เตอร์กแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นคือจักรวรรดิเซลจุกซึ่งเข้ามาในพื้นที่ที่รู้จักกันในชื่ออาเซอร์ไบจานในปี ค.ศ. 1067

slot

ซูส

ตามคติศาสนากรีกโบราณ ซูส หรือ ซิวส์ (Zeus; กรีกโบราณ: Ζεύς, Zeús [zdeǔ̯s] ซฺเดอุส) ทรงเป็นพระบิดาแห่งเทพและมนุษย์ (กรีกโบราณ: πατὴρ ἀνδρῶν τε θεῶν τε, patḕr andrōn te theōn te) เป็นเทวราชผู้ปกครองเทพเจ้าแห่งโอลิมปัสดังบิดาปกครองครอบครัว พระองค์ทรงเป็นเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าในเทพปกรณัมกรีก ซูสกับพระเจ้าจูปิเตอร์ของโรมันมาจากรากศัพท์เดียวกัน และกลายมามีความใกล้ชิดกันภายใต้อิทธิพลเฮเลนิสติก ซูสเป็นบุตรของโครนัสและรีอา และมีพระชนมายุน้อยที่สุด ในตำนานกล่าวว่า พระองค์สมรสกับฮีรา ทว่าที่ผู้พยาการณ์ที่ดอโดนา คู่สมรสของพระองค์คือ ไดโอนี ตามที่ระบุในอีเลียด พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของแอโฟรไดที โดยไดโอนีเป็นพระมารดา พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักในเรื่องกาม ซึ่งส่งผลให้พระองค์มีพระโอรสธิดาที่เป็นพระเจ้าและวีรบุรุษมากมาย รวมทั้งอะธีนา อะพอลโลและอาร์ทิมิส เฮอร์มีส เพอร์เซฟะนี ไดอะไนซัส เพอร์ซิอัส เฮราคลีส เฮเลนแห่งทรอย มิวส์ แอรีส ฮีบีและฮิฟีสตัส วอลเตอร์ เบอร์เกิร์ตบรรยายไว้ในหนังสือ ความเชื่อกรีกโบราณ ว่า “ซูสเป็นเทพบิดรของบรรดาเทวดาทั้งหลาย ทวยเทพทั้งหมดกำเนิดขึ้นเพราะมีพระองค์”ชาวกรีกเชื่อว่า พระองค์คือ เทพเจ้าสูงสุด, ผู้ครอบครองจักรวาล อ้างอิงโดย พอซาเนียส (นักภูมิศาสตร์) “ที่ซูสเป็นกษัตริย์ในสวรรค์เป็นคำที่มนุษย์ทุกคนทราบ” เฮซิออด กวี ธีโอโกนี ซูสได้จัดสรรมอบอำนาจให้เหล่าเทพ กวีโฮเมอริค พระองค์มีอำนาจปกครองสูงสุดในเหล่าเทพ สัญลักษณ์ของซูสคือ อัสนีบาตสายฟ้า, เหยี่ยว, กระทิง และต้นโอ๊ก นอกเหนือจากตำนานอินโด-ยูโรเปียน ฉายาตามตำนาน “ผู้รวบรวมเมฆ” (กรีก: Νεφεληγερέτα, Nephelēgereta) ได้รับมาจากสัญลักษณ์ตามวัฒนธรรมตะวันออกใกล้โบราณ ตัวอย่างเช่น คทาของกษัตริย์ ศิลปินชาวกรีกมักจะนำเสนอรูปปั้นเทพซูสใน ท่ายืนหรือท่วงท่าการก้าวไปข้างหน้า มีอัสนีบาตประดับในพระหัตถ์ขวา หรือประทับอยู่บนพระราชบัลลังก์ตำนานการถือกำเนิดของเทพซูสมีอยู่ว่า เทพีไกอาเทพมารดาแห่งผืนดิน ได้สมรสกับเทพยูเรนัสเทพแห่งท้องฟ้า และมีบุตรกลุ่มแรกคือ เหล่าเทพไททันซึ่งสร้างความภาคภูมิแก่เทพยูเรนัสมาก แต่ทว่าบุตรต่อ ๆ มาของเทพีไกอากลับอัปลักษณ์และน่ากลัว เช่น ยักษ์ไซคลอปส์ที่มีตาข้างเดียวกลางใบหน้า และอสุรกายน่าเกลียดต่าง ๆ ทำให้เทพยูเรนัสพิโรธโยนบุตรเหล่านั้นลงไปขังในคุกทาร์ทะรัสใต้พิภพ

jumbo jili

เทพีไกอาแค้นเทพยูเรนัสมากจึงยุยงให้เหล่าเทพไททันก่อกบฏ ไม่มีเทพองค์ใดที่กล้าชิงบัลลังก์พระบิดายกเว้นเทพโครนัส และจากการช่วยเหลือจากเทพีไกอาทำให้เทพโครนัสชิงอำนาจได้สำเร็จ ทว่าเทพโครนัสไม่ได้ทำตามสัญญาที่จะปลดปล่อยอสูรผู้เป็นน้อง เทพีไกอาจึงสาปแช่งว่าบุตรที่จะเกิดมาของโครนัสจะชิงอำนาจไปเหมือนกับที่เคยทำไว้กับบิดา เทพโครนัสตระหนักมากเพราะหลังจากนั้นไม่นาน เทพีรีอา พระชายาก็ตั้งครรภ์ เมื่อได้ข่าวการประสูติ เทพโครนัสจึงบุกเข้าไปในตำหนักพระชายาและจับทารกผู้เป็นสายเลือดของตนกลืนลงท้องไป และครรภ์ต่อๆมาของเทพีรีอาก็เช่นกัน ส่งผลให้เทพีรีอาเศร้าเสียใจอย่างมาก โครนัสให้กำเนิดบุตรและธิดารวมหกองค์ คือ เฮสเทีย เฮดีส ดีมิเตอร์ โพไซดอน เฮรา ซูส ซึ่งพอกำเนิดมาได้ถูกโครนัสจับกลืนลงท้องไปแต่เนื่องด้วยซูสหนีออกมาได้ จึงรอให้ตัวเองโตแล้วกลับมาช่วยอีก 5 องค์ในภายหลัง เนื่องจาก เฮสเทีย เฮดีส ดีมิเตอร์ โพไซดอน และเฮรา เป็นเทพจึงไม่ตายตอนอยู่ในท้องของโครนัสเมื่อซูสเติบโตถึงวัยหนุ่ม พระองค์ได้บังคับให้โครนัสสำรอกหินออกมา (หินตั้งอยู่ ณ ไฟโต ใต้หุบเขา ปาร์นาซัส เป็นสัญลักษณ์ของเหล่ามนุษย์, ออมฟาลอส) ตามมาด้วยเหล่าพี่น้องของพระองค์ บางตำนานกล่าวถึง มีทิส ว่าเป็นผู้ปรุงยาให้โครนัสสำรอกลูก ๆ ออกมา บ้างก็ว่า ซูสเป็นผู้ผ่าท้องของโครนัส แล้วพาพี่น้องออกมา รวมถึงปลดปล่อย ไจแอนเตส, ฮีคาโตนไคเรส และ ไซคลอปส์ จาก ขุมนรกทาร์ทารัส และสังหารผู้คุม แคมพี ด้วยความขอบคุณ เหล่าไซคลอปส์มอบ อัสนีบาต และ สายฟ้า หรือฟ้าผ่า ให้แก่ซูส ซึ่งก่อนหน้านี้ไกอานำไปซ่อนไว้ ซูสและพี่น้องทั้งหมด รวมถึงพวกไจแอนเตส ฮีคาโตนไคเรส และไซคลอปส์ได้ร่วมกันโค่นโครนัสและยักษ์ตนอื่น ๆ ในมหาสงคราม ไททันโนมาชี เหล่ายักษ์ที่พ่ายแพ้โดนส่งไปยังขุมนรกทาร์ทารัส แอตลาส ผู้นำของกลุ่มยักษ์ที่ต่อต้านซูส โดนโทษให้แบกโลกไว้ตลอดเวลา

สล็อต

หลังเสร็จสิ้นสงครามครั้งนั้น ซูสได้ร่วมกันปกครองโลกกับพี่น้อง ซึ่งก็คือ โพไซดอน และ ฮาเดส ดังนี้: ซูสปกครองสวรรค์ โพไซดอนปกครองท้องทะเล และฮาเดสปกครองโลกหลังความตาย มารดาแห่งผืนดิน ไกอา ยอมรับไม่ได้ที่เป็นเช่นนั้น พระนางได้บันดาลให้ส่วนของโพไซดอนมีเหตุแผ่นดินไหว (โพไซดอน – เทพเจ้าแห่งแผ่นดินไหว) และทำให้ฮาเดสถูกกล่าวหาว่าทำให้มนุษย์ถึงแก่ความตาย ไกอาโกรธแค้นซูสที่สังหารเหล่ายักษ์ซึ่งเป็นลูกของนาง หลังจากซูสขึ้นปกครองเหล่าเทพ พระนางได้ปล่อยสัตว์ร้าย ไทฟอน และ เอไคนา แต่ซูสปราบไทฟอนและขังเขาไว้ใต้หุบเขาเอตน่า ส่วนเอไคนา พระองค์ปล่อยให้นางและลูกๆได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
ซูสเป็นทั้งพี่ชายและคู่ครองของเฮรา บุตรของทั้งคู่คือ แอรีส, ฮีบี และ ฮีฟีสตัส, แต่ในบางตำนานเล่าว่า เทพเจ้าเหล่านี้เป็นบุตรของเฮราแต่ผู้เดียว บ้างก็กล่าวว่ามีบุตรสาวนามว่า อีไลธียา และ อีรีส เรื่องราวของซูสและนางไม้ รวมถึงการกำเนิดตระกูล เฮลเลนิค เป็นที่โด่งดังมาก ตำนานโอลิมเปียมีอ้างถึงการสมรสของซูสกับลีโต, ดีมีเตอร์, ไดโอนี และไมอา รวมถึงมนุษย์นาม ซีมีลี, ไอโอ, ยูโรปา และลีดา และแกนีมีด (ถึงแม้ว่าจะเป็นมนุษย์ ซูสก็ได้ประทานความอมตะให้แก่เขา) ในหลายตำนานมักกล่าวถึงฮีราในเรื่องของความหึงหวงและแค้นเคืองต่อซูส เหล่าภรรยาลับและลูก ๆ ของพวกเขา ครั้งหนึ่งนางไม้ เอคโค ชวนพระนางคุยจนกระทั่งพระนางไล่ตามซูสไม่ทัน เมื่อพระนางทราบความจริงได้สาปเอคโคให้พูดได้แต่เพียงเสียงตามผู้อื่นเท่านั้น

สล็อตออนไลน์

การโค่นอำนาจไททันโครนอส ความคับแค้นใจทำให้เทพีรีอาตัดสินใจเก็บบุตรคนสุดท้องเอาไว้ โดยแสร้งส่งก้อนหินห่อผ้าให้เทพโครนัสไป ทารกซูสถูกเลี้ยงดูอย่างดีโดยเทพีไกอาผู้เป็นย่าได้นำทารกซีอุสไปซ่อนไว้ในหุบเขาดิกเทอ ในเกาะครีต ซีอุสกินอาหารคือน้ำผึ้งและน้ำนมจากนิมฟ์ครึ่งแพะที่ชื่อว่า อะมาลไธอา ซึ่งในภายหลังซีอุสได้ได้สร้างนางให้เป็นกลุ่มดาวแพะ หรือกลุ่มดาวมกรในจักรราศีและมีครึ่งเทพครึ่งแพะแห่งป่าที่เล่นฟลุทอยู่ตลอดเวลาชื่อแพนเป็นผู้ให้การศึกษา เมื่อซีอุสเติบใหญ่แข็งแรงจึงหวนกลับไปแก้แค้นโครนอสผู้เป็นเทพบิดาตามคำร้องขอของเทพีมารดา รอาได้หลอกให้โครนอสกินยาที่จะทำให้สำรอกบุตรที่เคยกลืนออกมา ด้วยความเป็นเทพเจ้าทำให้เหล่าเทพที่ถูกกลืนลงไปไม่ตายซ้ำยังเติบโตขึ้น เรียงลำดับได้ดังนี้
1.เทพีเฮสเตีย เทพีแห่งไฟและเทพีผู้คุ้มครองครอบครัว เป็นเทพีครองพรหมจรรย์
2.เทพี ดิมีเตอร์ เทพีแห่งพันธุ์พืช ธัญญาหารและการเพาะปลูก มีธิดากับเทพซูสหนึ่งองค์คือ เทพีเพอร์ซิโฟเน หรือ โพรเซอพิน่าผู้เป็นชายาของฮาเดส

jumboslot

3.เทพี ฮีรา เทพีแห่งการสมรส เป็นมเหสีของเทพซูส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหึงหวง มีโอรสและธิดากับเทพซูส 3 องค์คือ เฮฟเฟสตุส ฮีบีกับ อาเรส
4.เทพเฮดีส เจ้าแห่งโลกบาดาล ปกครองยมโลก มีเทพีเพอร์เซฟะนีเป็นมเหสี
5.เทพโพไซดอน เจ้าแห่งท้องทะเล ปกครองน่านน้ำเมดิเตอร์เรเนียนและน้ำที่ใช้ประโยชน์ได้ มีเทพีแอมฟิไทรท์ หรือ อัมฟิตรีติ เป็นมเหสี
เมื่อเทพทั้งห้าได้ออกมาจากท้องของโครนัสแล้วจึงร่วมกับซูสปราบโครนัสและส่งโครนัสไปขังไว้ที่ทาร์ทะรัส ซูสได้รับตำแหน่งเทพผู้นำของเหล่าเทพ เนื่องจากการจับฉลากแบ่งหน้าที่ของทั้งสามพี่น้อง และได้พาเหล่าเทพทั้งหลายขึ้นไปอาศัยอยู่บนเทือกเขาโอลิมปัส แม้ว่าเหล่าเทพทุกองค์จะยอมยกตำแหน่งผู้นำให้กับซูสในทีแรก แต่ในตอนหลังเหล่าเทพต่าง ๆ ก็ต่างพากันหาหนทางในการยึดอำนาจมาเป็นของตนเองอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮราผู้เป็นชายาของซูส ได้พยายามที่จะรวบรวมเหล่าเทพเพื่อก่อการกบฏอยู่เสมอ แต่ในท้ายที่สุดซูสก็สามารถที่แก้ไขปัญหา และจับตัวนางมาลงโทษได้อยู่เสมอ

slot

เทพเจ้าแห่งโอลิมปัส

ในเทพปกรณัมกรีก เทพเจ้าแห่งโอลิมปัส (θεοί του Ολύμπου) เป็นเทพเจ้าหลักของศาสนากรีกโบราณ โดยมากถือว่าประกอบด้วยซูส ฮีรา โพไซดอน ดิมีเทอร์ อะธีนา อะพอลโล อาร์ทิมิส แอรีส แอโฟรไดที ฮิฟีสตัส เฮอร์มีส และเฮสเตียหรือไดอะไนซัส บางครั้งรวมเฮดีสและเพอร์เซฟะนีเป็นส่วนหนึ่งของสิบสองเทพโอลิมปัสด้วย แต่โดยทั่วไปไม่นับเฮดีส เพราะพระองค์ประทับอย่างถาวรในโลกบาดาลและไม่เคยเสด็จเยือนยอดเขาโอลิมปัส บางครั้งนับรวมเฮราคลีสและอัสคลิปิอุสเช่นกันประมวลเรื่องปรัมปรากรีก (กรีกโบราณ: ΜΥΘΟΛΟΓΊΑ ΕΛΛΗΝΙΚΉ) เป็นประมวลเรื่องปรัมปราของอารยธรรมกรีกโบราณ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับนิทานปรัมปราและตำนานที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้า, วีรบุรุษ, ธรรมชาติของโลก รวมถึงจุดกำเนิดและความสำคัญของขนบ คติและจารีตพิธีในทางศาสนาของชาวกรีกโบราณ ประมวลเรื่องปรัมปรากรีกเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาในกรีซโบราณ นักวิชาการสมัยใหม่มักอ้างถึงและศึกษาเรื่องปรัมปราเหล่านี้ เพื่อที่จะทราบเกี่ยวกับสถาบันทางศาสนา, สถาบันทางการเมืองในกรีซโบราณ, อารยธรรมของชาวกรีก และเพื่อเพิ่มความเข้าใจในธรรมชาติของการสร้างตำนานประมวลเรื่องปรัมปราขึ้น ประมวลเรื่องปรัมปรากรีกรวบรวมขึ้นจากเรื่องเล่าและศิลปะที่แสดงออกในวัฒนธรรมกรีก เช่น การระบายสีแจกันและของแก้บน ตำนานกรีกอธิบายถึงการถือกำเนิดของโลก และรายละเอียดของเรื่องราวในชีวิต และการผจญภัยของบรรดาเทพเจ้า เทพธิดา วีรบุรุษ วีรสตรี และสิ่งมีชีวิตในตำนานอื่น ๆ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ในตอนแรกเป็นเพียงการสืบทอดผ่านบทกวีตามประเพณีมุขปาฐะเท่านั้น ซึ่งอาจสืบย้อนหลังไปได้ถึงสมัยไมนอส และสมัยไมซีนี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ก่อนค.ศ. แต่ปัจจุบันเรื่องราวปรัมปราเหล่านี้ เราทราบจากวรรณกรรมกรีกโบราณทั้งสิ้น

jumbo jili

วรรณกรรมกรีกที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักกันคือ มหากาพย์ อีเลียด และ โอดิสซีย์ ของโฮเมอร์ ซึ่งจับเรื่องราวเหตุการณ์ในระหว่างสงครามเมืองทรอย นอกจากนี้มีบทกวีมหากาพย์ร่วมสมัยอีกสองชุดของเฮสิโอดกวีร่วมสมัยของโฮเมอร์ คือ ธีออโกนี และ งานและวัน เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดโลก พงศาวลีของผู้ปกครองกึ่งเทพ การผลัดเปลี่ยนยุคสมัยของมนุษย์ ต้นกำเนิดความทุกข์ยากของมนุษย์ และพิธีบูชายัญต่าง ๆ เรื่องเล่าปรัมปรายังพบได้ในบทเพลงสวดสรรเสริญของโฮเมอร์ (Homeric hymns) จากส่วนเสี้ยวที่หลงเหลือของบทกวีมหากาพย์ใน วัฎมหากาพย์ (Epic Cycle) จากบทร้อยกรองประกอบพิณ (lyric poems) จากงานละครโศกนาฏกรรมและสุขนาฎกรรมในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล จากงานเขียนของปราชญ์และกวีในยุคเฮเลนนิสติก และในตำราจากยุคของจักรวรรดิโรมันที่เขียนโดยพลูตาร์คกับเพาซานิอัส งานค้นพบของนักโบราณคดีเป็นแหล่งข้อมูลอย่างละเอียดของประมวลเรื่องปรัมปรากรีก เพราะมีภาพของเทพและวีรบุรุษกรีกมากมายเป็นเนื้อหาหลักอยู่ในการตกแต่งสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภาพเรขาคณิตบนเครื่องปั้นดินเผาในยุคศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาลแสดงให้เห็นฉากต่าง ๆ ในสงครามเมืองทรอย รวมไปถึงการผจญภัยของเฮราคลีส ในยุคต่อ ๆ มาเช่น กรีซยุคอาร์เคอิก ยุคคลาสสิก และสมัยเฮลเลนิสต์ ก็พบภาพฉากเกี่ยวกับมหากาพย์ของโฮเมอร์และตำนานปรัมปราอื่น ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มเติมแก่หลักฐานทางวรรณกรรมที่มีอยู่

สล็อต

ประมวลเรื่องปรัมปรากรีกมีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรม ศิลปะ และวรรณกรรมของอารยธรรมตะวันตก รวมถึงมรดกและภาษาทางตะวันตกด้วย กวีและศิลปินมากมายนับแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบันได้รับแรงบันดาลใจจากประมวลเรื่องปรัมปรากรีก และได้คิดค้นนัยยะร่วมสมัยกับการตีความใหม่ที่สัมพันธ์กับตำนานปรัมปราเหล่านี้การค้นพบอารยธรรมไมซีนี โดยนักโบราณคดีสมัครเล่น ไฮน์ริช ชลีมาน ในศตวรรษที่ 19 และการค้นพบอารยธรรมไมนอสที่เกาะครีตโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ อาร์เธอร์ อีวานส์ ในศตวรรษที่ 20 มีส่วนช่วยอธิบายเกี่ยวกับมหากาพย์ของโฮเมอร์ และให้หลักฐานรับรองทางโบราณคดีเกี่ยวกับรายละเอียดของนิทานปรัมปราหลาย ๆ เรื่อง อย่างไรก็ดีหลักฐานเหล่านี้เป็นหลักฐานสิ่งปลูกสร้างและอนุสาวรีย์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีการใช้ตัวอักษรเขียนเพื่อจดบันทึกเรื่องราว และแผ่นจารึกไลเนียร์บีที่ขุดพบ ก็เป็นเพียงบันทึกเกี่ยวกับคลังเก็บสินค้าเท่านั้น การตกแต่งด้วยลวดลายเราขาคณิตบนเครื่องปั้นดินเผาสมัยศตวรรษที่ 8 ก่อนค.ศ. แสดงภาพเนื้อเรื่องของวัฎมหากาพย์กรุงทรอย และการผจญภัยของเฮราคลีส การแสดงออกเชิงประจักษ์ของเรื่องราวปรัมปราเหล่านี้มีความสำคัญสองประการ ประการแรก ตำนานปรัมปราส่วนใหญ่ปรากฏอยู่บนเครื่องปั้นดินเผารูปเขียนสี ก่อนที่จะมีหลักฐานทางวรรณคดีนานหลายศตวรรษ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของวีรกรรมสิบสองประการของเฮราคลีส มีแค่การผจญสุนัขปีศาจเคเบรอสเท่านั้นที่มีบันทึกไว้ในวรรณกรรมร่วมสมัย ประการที่สอง แหล่งข้อมูลเชิงประจักษ์บางครั้งแสดงรายละเอียด หรือฉากของเรื่องราวในตำนานที่ไม่ปรากฏอยู่ในแหล่งข้อมูลทางวรรณคดีใด ๆ เลย ในสมัยอาร์เคอิก (ปีที่ 750-500 ก่อนค.ศ.), สมัยคลาสสิก (ปีที่ 480-323 ก่อนค.ศ.), และสมัยเฮลเลนิสติก (ปีที่ 323-146 ก่อนค.ศ.) หลักฐานเชิงประจักษ์เหล่านี้มีบทบาทในการสนับสนุนและเพิ่มเติมหลักฐานทางวรรณคดีการปูพื้นหลังเกี่ยวกับตำนานประมวลเรื่องปรัมปรามีบทบาทอย่างมากกับวรรณกรรมกรีกโบราณในทุกสาขา ถึงกระนั้น หนังสือตำนานปรัมปราเพียงเล่มเดียวที่เหลือรอดมาจากยุคกรีกโบราณ ก็คือ Library หรือ บิบลิโอเธกา (Bibliotheca) ของอพอลโลดอรัสตัวปลอม งานชิ้นนี้พยายามหาข้อยุติในความขัดแย้งกันระหว่างเรื่องเล่าต่าง ๆ ของบทกวีมากมาย และพยายามเรียบเรียงออกมาเป็นตำนานเทพเจ้าและวีรบุรุษกรีกในยุคดั้งเดิม อพอลโลดอรัสแห่งเอเธนส์มีชีวิตในช่วงปีที่ 180-125 ก่อนคริสตกาล และเขียนเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นหลายชิ้น งานเขียนของเขาอาจจัดเป็นชุดที่ต่อเนื่องกัน แต่ “Library” นั้นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตของเขาเป็นเวลานาน ดังนั้นมันจึงได้ชื่อว่าเป็นของอพอลโลดอรัสเทียม

สล็อตออนไลน์

ในบรรดาแหล่งข้อมูลที่เก่าแก่ที่สุด มีบทกวีมหากาพย์ของโฮเมอร์ สองเรื่อง คือ อีเลียด และ โอดิสซีย์ นอกจากนี้ยังมีกวีรายอื่นอีกที่ช่วยเติมเต็ม “วัฏมหากาพย์” ทว่าในภายหลังต่างสูญหายไปเกือบหมด บทกวีเหล่านี้มักเรียกกันว่า “เพลงสวดของโฮเมอร์” (Homeric Hymns) แต่อันที่จริงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับโฮเมอร์เลย มันเป็นบทสวดสรรเสริญที่สืบทอดมาแต่ยุคบทกวีไลริค (Lyric Poetry) เฮสิโอดซึ่งน่าจะเป็นกวีร่วมสมัยกับโฮเมอร์ ได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับตำนานกรีกที่เก่าแก่ที่สุดไว้ในผลงานชื่อ ธีออโกนี (เทวพงศาวดาร) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างโลก พงศาวดารการกำเนิดของเทพเจ้าต่าง ๆ ตลอดจนพงศาวลีที่มีรายละเอียดสูง มีนิทานพื้นบ้าน และตำนานเกี่ยวกับจุดกำเนิดของสิ่งต่าง ๆ ในงานเขียนของเฮสิโอดอีกเรื่องคือ งานและวัน (Works and Days) ซึ่งเป็นบทกวีสั่งสอนเกี่ยวกับชีวิตในไร่ ได้รวมเอาตำนานเกี่ยวกับโพรมีเทียส แพนดอรา และยุคทั้งห้าของมนุษยชาติเอาไว้ด้วย ผู้ประพันธ์ได้แนะนำวิธีที่ดีที่สุดในการประสบความสำเร็จในโลกอันแสนอันตราย ซึ่งยิ่งถูกทำให้เป็นอันตรายมากขึ้นโดยพวกเทพนั่นเอง บทกวีประกอบเสียงพิณ (lyric poetry) มักจะนำเนื้อเรื่องมาจากตำนาน

jumboslot

แต่วิธีการเล่าจะมีเนื้อหาน้อยกว่าและค่อนข้างคลุมเครือกว่า กวีเพลงของกรีกซึ่งรวมไปถึง พินดาร์, แบคคิลิดีส (Bacchylides), ไซโมนิดีส (Simonides of Ceos) และกวีท้องทุ่ง (bucolic poet) หรือพาสโตรัล เช่น ธีโอคริตัส (Theocritus) และ ไบออนแห่งสเมอร์นา (Bion of Smyrna) มักรวมเอาเหตุการณ์เหนือธรรมชาติของแต่ละคนเข้าไปด้วย นอกจากนี้ นิทานประมวลเรื่องปรัมปรายังเป็นแกนกลางของศิลปะการละครในเอเธนส์ยุคคลาสสิก นักเขียนบทละครโศกนาฏกรรม เช่น เอสคิลัส, โซโฟคลีส, และ ยูริพิดีส ใช้พล็อตเรื่องส่วนใหญ่จากตำนานในยุคแห่งวีรบุรุษและสงครามเมืองทรอย เรื่องราวโศกนาฏกรรมที่สำคัญ ๆ (เช่น อะกาเมมนอนกับลูก ๆ, อีดิปัส, เจสัน, เมเดีย, ฯลฯ) ก็ถูกเล่าผ่านละครโศกนาฏกรรมของกวีที่สำคัญเหล่านี้ จนกลายเป็นเวอร์ชันที่ยอมรับกันเป็นมาตรฐาน อริสโตฟานีส นักเขียนบทละครตลกขบขันยังใช้ตำนานเหล่านี้ในงานบทละครเรื่อง วิหก (The Birds) และ กบ The Frogs นักประวัติศาสตร์ เฮโรโดตัส และ ดิโอดอรัส ซิคุลัส กับนักภูมิศาสตร์ เปาซาเนีย และ สตราโบ ซึ่งเดินทางไปทั่วแผ่นดินกรีกและบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ยิน ได้ให้ข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับตำนานและเรื่องเล่าของท้องถิ่น โดยมักจะเป็นเวอร์ชันที่ต่างออกไปและไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะเฮรอโดตัสนั้นเที่ยวค้นหาประเพณีต่าง ๆ ที่ตนพบเจอและพบรากฐานทางประวัติศาสตร์หรือตำนานปรัมปราอยู่ในการเผชิญหน้าระหว่างกรีกกับประเทศตะวันออก เฮรอโดตัสพยายามจะนำต้นกำเนิดต่าง ๆ เหล่านี้ที่มาจากต้นกำเนิดวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมาผสมผสานเข้าด้วยกัน

slot

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งออร์ตา

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งออร์ตา เป็นนักบุญในศาสนาคริสต์ เสียชีวิตเมื่อราว ค.ศ. 80 ในหนังสือกิจการของอัครทูตกล่าวถึงนักบุญมัทธีอัสว่าเป็นหนึ่งในอัครทูตสิบสองคน โดยท่านได้รับเลือกจากอัครทูตที่เหลืออยู่สิบเอ็ดคนเพื่อแทนยูดาส อิสคาริโอท ที่ทรยศพระเยซูแล้วฆ่าตัวตายไป หลังจากได้รับเลือกเป็นอัครทูตแล้ว มัทธีอัสกับอัครทูตคนอื่น ๆ ก็ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์พร้อมกันในเทศกาลเพนเทคอสต์ ซึ่งเป็นวันที่ 50 หลังจากการคืนพระชนม์ของพระเยซู คริสตจักรโรมันคาทอลิกยกย่องอัครทูตมัทธีอัสเป็นนักบุญ เดิมจัดวันฉลองท่านในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ต่อมาจึงย้ายมาเป็นวันที่ 14 พฤษภาคมของทุกปี
jumbo jili
กิจการของอัครทูต (อังกฤษ: Acts of the Apostles) เป็นเอกสารฉบับที่ 5 ของคัมภีร์ไบเบิล ภาคพันธสัญญาใหม่ เรียกย่อว่า กิจการ (Acts) ชื่อมาจากภาษากรีก “Praxeis Apostolon” ใช้เป็นครั้งแรกโดยนักบุญอิเรเนียส (Irenaeus) เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 2 อาจมีนัยความหมายว่า “กิจการของพระจิต” หรือเป็น “กิจการของพระเยซู” ก็เป็นได้ เพราะ กิจการ เขียนขึ้นเพื่อบันทึกแนวทางปฏิบัติที่พระเยซูทรงสอน และทรงมีบทบาทหลัก แม้ว่าผู้เขียนจะไม่ได้บ่งบอกชื่อของตนเองไว้ แต่หลักฐานทั้งจากภายนอกและเนื้อหาในพระธรรมเอง เชื่อได้ว่าผู้เขียนน่าจะเป็น ลูกาผู้ประกาศข่าวประเสริฐ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังสรุปยืนยันไม่ได้ แต่มั่นใจว่าผู้ที่เขียนพระธรรม กิจการ และ พระวรสารนักบุญลูกา เป็นบุคคลเดียวกัน สังเกตได้จากบทเริ่มต้นของพระธรรมเล่มนี้ ซึ่งเป็นจดหมายเขียนถึงเธโอฟิลัส โดยอ้างถึงหนังสือเรื่องแรกที่ได้เขียนให้อ่านไปแล้วนั้น ตรงกันกับบทเริ่มต้นของพระวรสารนักบุญลูกา ดังนั้น พระธรรม กิจการ จึงเขียนขึ้นทีหลัง ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 63 – 65 ในพระธรรม กิจการของอัครทูต นักบุญลูกาได้บันทึกประวัติศาสตร์การประกาศข่าวประเสริฐในช่วง 30 ปีแรก ซึ่งเริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากที่พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระธรรมเล่มนี้จึงเป็นเหมือนจุดเชื่อมต่อระหว่างพระวรสารและจดหมายของนักบุญเปาโลและจดหมายอื่นได้เป็นอย่างดี เป็นพระธรรมที่มีความยาวมาก เกือบจะมากเท่ากับพระวรสารนักบุญลูกา ที่มีความยาวที่สุดในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ สล็อต
พระธรรม กิจการของอัครทูต พอจะแบ่งออกเป็นตอนใหญ่ ๆ ได้ 2 ตอน คือ ตอนแรกเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มและปริมณฑล ซึ่งบุคคลสำคัญในตอนนี้ คือ นักบุญเปโตร มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เช่น นักบุญเปโตรปราศรัยในวันสมโภชพระจิตเจ้า นักบุญเปโตรกล่าวกับชาวอิสราเอล ณ เฉลียงซาโลมอน อัครทูตถูกข่มเหง สเทเฟนเสียชีวิตเพราะยืนยันในความเชื่อ การกลับใจของนักบุญเปาโล พวกชนต่างชาติได้รับพระวิญญาณ เป็นต้น ตอนที่สองเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการประกาศข่าวประเสริฐออกไปนอกกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งบุคคลสำคัญในตอนนี้ คือ นักบุญเปาโล เหตุการณ์ในตอนที่สองนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการเดินทางไปประกาศข่าวประเสริฐในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปและเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งจากการเดินทางและการต่อต้านจากชาวยิวในหลาย ๆ เมือง ส่งผลให้นักบุญเปาโลถูกตามล่าเอาชีวิตและติดคุกอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เป็นโอกาสที่ทำให้นักบุญเปาโลได้แก้คดีต่อหน้าชาวยิวและชาวโรมัน สล็อตออนไลน์
ศาสนาคริสต์ (อังกฤษ: Christianity) ราชบัณฑิตยสถานเรียกว่า คริสต์ศาสนา เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม ที่มีพื้นฐานมาจากชีวิตและการสอนของพระเยซูตามที่ปรากฏในพระวรสารในสารบบ (canonical gospel) และงานเขียนพันธสัญญาใหม่อื่น ๆ ผู้นับถือศาสนาคริสต์เรียกว่าคริสต์ศาสนิกชนหรือคริสตชน คริสตชนเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าผู้มาบังเกิดเป็นมนุษย์และเป็นพระผู้ไถ่ ด้วยเหตุนี้ คริสตชนจึงมักเรียกพระเยซูว่า “พระคริสต์” หรือ “พระเมสสิยาห์” ศาสนาคริสต์ปัจจุบันแบ่งเป็นสามนิกายใหญ่ คือ โรมันคาทอลิก อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโปรเตสแตนต์ ซึ่งยังแบ่งนิกายย่อยได้อีกหลายนิกาย เขตอัครบิดรโรมันคาทอลิกและออร์ทอดอกซ์แยกออกจากกันในช่วงศาสนเภทตะวันออก-ตะวันตก (East–West Schism) ใน ค.ศ. 1054 และนิกายโปรเตสแตนต์เกิดขึ้นหลังการปฏิรูปศาสนาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งแยกตัวออกจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก jumboslot
วัตถุประสงค์ในการเขียนพระธรรม กิจการของอัครทูต มีอยู่ 4 ประการ คือ ประการแรก นักบุญลูกาต้องการเล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นไปของการประกาศข่าวประเสริฐประการที่สอง คือ นักบุญลูกาต้องการให้เธโอฟิลัส ซึ่งเป็นทั้งผู้อ่านจดหมายฉบับนี้และเป็นเจ้าหน้าที่โรมันทราบว่า คริสเตียนไม่ได้ทำอะไรผิด แม้ว่าจะมีปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่เชื่อ แต่คริสเตียนดำเนินชีวิตภายใต้กฎหมาย ดังที่เฟสทัส ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองในขณะนั้น หลังจากฟังคำฟ้องของชาวยิวต่อนักบุญเปาโลแล้วกล่าวว่า “เมื่อพวกโจทก์ยืนขึ้น เขามิได้กล่าวหาจำเลยเหมือนที่ข้าพเจ้าคาดไว้นั้น เป็นแต่เพียงปัญหาเถียงกันด้วยเรื่องลัทธิศาสนาของเขาเอง และด้วยเรื่องคนหนึ่งที่ชื่อเยซูซึ่งตายแล้ว แต่เปาโลยืนยันว่ายังเป็นอยู่” ประการที่สาม คือ นักบุญลูกาต้องการให้ทราบว่า ผู้ประกาศข่าวประเสริฐทั้งสองคนของคริสตจักร คือ นักบุญเปโตร และ นักบุญเปาโล มีทัศนคติและแนวทางในการปฏิบัติงานรับใช้พระเจ้าอย่างไร อันเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้รับใช้รุ่นต่อ ๆ มาได้ ประการสุดท้ายคือ นักบุญลูกาต้องการเขียนแผนผังแสดงการเดินทางเผยแพร่ข่าวประเสริฐ จากกรุงเยรูซาเล็มไปเอเซียไมเนอร์ ไปมาซิโดเนียและกรีก สุดท้ายจนถึงกรุงโรม ระหว่างทางจะผ่านสถานที่ทางภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ซึ่งท่านได้บันทึกไว้หมด slot

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งโอสซุชชิโอ

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งโอสซุชชิโอ ของขวัญของพระเจ้า เป็นอัครทูตของพระเยซู และเป็นหนึ่งในผู้นิพนธ์พระวรสารสี่ท่าน (อีกสามท่านคือ มาระโก ยอห์น และลูกา) เชื่อกันว่าท่านเป็นผู้ประพันธ์พระวรสารนักบุญมัทธิวซึ่งเป็นพระวรสารฉบับหนึ่งในพันธสัญญาใหม่ และเชื่อกันว่าเป็นคนเดียวกับ “เลวี” (Levi) ผู้เก็บภาษี ปัญหาว่ามัทธิวผู้นิพนธ์พระวรสารเป็นใครเป็นเรื่องที่ซับซ้อนด้วยเหตุผลหลายประการ พระวรสารมีชื่อว่า “มัทธิว” เขียนโดยผู้ไม่บอกนามแต่มาลงชื่อ “มัทธิว” ภายหลัง ลักษณะและวิธีการเขียนภาษากรีกที่บรรยายเหตุการณ์ทำให้นักวิชาการทางคัมภีร์ไบเบิลเชื่อว่าผู้ประพันธ์ไม่ได้อยู่สมัยเดียวกับพระเยซู นักวิชาการบางคนชี้ว่านักบุญมัทธิวผู้นิพนธ์พระวรสารเป็นผู้เขียนพระวรสารฉบับนิรนามนี้ และนักบุญมัทธิวอัครทูตคือผู้ที่ถูกกล่าวถึงในพระวรสารนี้ แต่ทางธรรมเนียมคริสต์ศาสนาถือว่าสองคนนี้เป็นคนคนเดียวกัน

jumbo jili


วิธีเขียนเล่าเรื่องพันธสัญญาใหม่ของนักบุญมัทธิวก็ค่อนข้างจะซับซ้อน ในพระวรสารนักบุญมาระโก พระวรสารนักบุญลูกา และกิจการของอัครทูต มีการกล่าวถึง “มัทธิว” โดยไม่มีตำแหน่ง ไม่มีคำบรรยายว่าเป็นใคร และไม่มีการบ่งถึงหน้าที่ และในพระวรสารนักบุญยอห์นและในจดหมายเหตุต่อมาก็ไม่มีที่กล่าวถึง “มัทธิว” แต่พระวรสารนักบุญมัทธิวกล่าวถึง “มัทธิว” เองว่าเป็นผู้เก็บภาษีที่ถูกพระเยซูเรียกตัว ซึ่งในพระวรสารฉบับอื่นเรียกว่า “เลวี” พระวรสารฉบับนี้จึงเรียกนักบุญมัทธิวว่า “ผู้เก็บภาษี” ในรายนามอัครทูตสิบสองคน ตามธรรมเนียมคริสต์ศาสนาถือว่า “มัทธิว” และ “เลวี” เป็นคนคนเดียวกัน แต่นักวิชาการทางคัมภีร์ไบเบิลสมัยใหม่ไม่เห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานนี้ นักวิชาการเชื่อว่าผู้ที่เขียนพระวรสารนักบุญมัทธิวเปลี่ยนชื่อ “เลวี” เป็น “มัทธิว” อาจจะเป็นเหตุผลทางเทววิทยาศาสนาคริสต์ ซึ่งอาจจะทำเพื่อให้อัครทูตที่ถูกพระเยซูเรียกตัวเป็นสมาชิกของกลุ่มอัครทูตสิบสองคน ถ้าสรุปว่าเรื่องของนักบุญมัทธิวในพระวรสารนักบุญมัทธิวมีพื้นฐานมาจากเรื่องของ “เลวี” อีกคนหนึ่ง ก็ไม่เป็นปัญหาที่ว่า “มัทธิว” เป็นหนึ่งในสาวกสิบสององค์

สล็อต


“เลวี” ที่กล่าวถึงในพระวรสารนักบุญมัทธิว เป็นผู้เก็บภาษีที่พระเยซูเรียกว่า “บุตรของอัลเฟียส” (Son of Alphaeus) การที่พระเยซูเรียกตัว “เลวี” ทำให้พระองค์ต้องเผชิญหน้ากับพวกฟาริสี เพราะไปคลุกคลีกับคนเก็บภาษีและคนบาป อีกข้อหนึ่งที่อาจจะเป็นได้คือยากอบ บุตรเศเบดี ซึ่งชื่อเดิมว่า “เลวี” และยากอบ บุตรอัลเฟอัส อาจจะถูกเรียกตัวไปเป็นสาวกพร้อมกับลูกา ความยอมรับนักบุญมัทธิวในปัจจุบัน มัทธิวผู้นิพนธ์พระวรสารได้รับการยอมรับเป็นนักบุญในคริสตจักรโรมันคาทอลิกและอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ฉลองวันฉลองนักบุญมัทธิวในวันที่ 16 พฤศจิกายน ในขณะที่คริสตจักรละติน แองกลิคัน และลูเทอแรน ฉลองกันในวันที่ 21 กันยายน เช่นเดียวกับผู้นิพนธ์พระวรสารอีกสามองค์ มัทธิวมักจะปรากฏในภาพเขียนทางคริสต์ศาสนาเป็นคนมีปีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ทางคริสตจักรตามหนังสือดาเนียล 7 (Book of Daniel) หรืออาจจะเป็นการกล่าวถึง เทวดาผู้ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้บอกให้นักบุญมัทธิวเขียนพระวรสาร ภาพเขียนสามภาพของนักบุญมัทธิวโดยการาวัจโจที่โบสถ์ซันลุยจีเดย์ฟรันเชซี ที่กรุงโรมเป็นภาพเขียนที่สำคัญในประวัติศิลปะตะวันตก

สล็อตออนไลน์


ศาสนาคริสต์ (อังกฤษ: Christianity) ราชบัณฑิตยสถานเรียกว่า คริสต์ศาสนา เป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยม ที่มีพื้นฐานมาจากชีวิตและการสอนของพระเยซูตามที่ปรากฏในพระวรสารในสารบบ (canonical gospel) และงานเขียนพันธสัญญาใหม่อื่น ๆ ผู้นับถือศาสนาคริสต์เรียกว่าคริสต์ศาสนิกชนหรือคริสตชน คริสตชนเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า และเป็นพระเจ้าผู้มาบังเกิดเป็นมนุษย์และเป็นพระผู้ไถ่ ด้วยเหตุนี้ คริสตชนจึงมักเรียกพระเยซูว่า “พระคริสต์” หรือ “พระเมสสิยาห์” ศาสนาคริสต์ปัจจุบันแบ่งเป็นสามนิกายใหญ่ คือ โรมันคาทอลิก อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโปรเตสแตนต์ ซึ่งยังแบ่งนิกายย่อยได้อีกหลายนิกาย เขตอัครบิดรโรมันคาทอลิกและออร์ทอดอกซ์แยกออกจากกันในช่วงศาสนเภทตะวันออก-ตะวันตก (East–West Schism) ใน ค.ศ.1054 และนิกายโปรเตสแตนต์เกิดขึ้นหลังการปฏิรูปศาสนาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งแยกตัวออกจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก

jumboslot


พระศาสนจักรคาทอลิก (อังกฤษ: Catholic Church) หรือ คริสตจักรโรมันคาทอลิก (Roman Catholic Church) เป็นคริสตจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีศาสนิกชนกว่า 1.3 พันล้านคนในปี ค.ศ. 2017 เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดที่ยังดำเนินกิจการอยู่ และมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์อารยธรรมตะวันตก พระสันตะปาปาทรงเป็นประมุขและปกครองศาสนจักรนี้ผ่านสันตะสำนัก ในศาสนจักรโรมันคาทอลิกประกอบด้วยคริสตจักรละตินและคริสตจักรคาทอลิกตะวันออก ชาวคาทอลิกเชื่อว่าพระเยซูมีพระมหาบัญชาตั้งศาสนจักรขึ้นให้เป็นหนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากล และสืบมาจากอัครทูต ดยมีมุขนายกสืบทอดหน้าที่จากอัครทูต และพระสันตะปาปาสืบมาจากนักบุญเปโตร ซึ่งพระเยซูทรงยกเป็นเอกในบรรดาอัครทูต ศาสนจักรคาทอลิกให้ความสำคัญกับศีลมหาสนิทที่สุดในบรรดาศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด และฉลองศีลนี้ในพิธีมิสซา โดยเชื่อว่าไวน์และปังที่บาทหลวงเสกในพิธีนี้จะเปลี่ยนสารเป็นพระกายและพระโลหิตของพระเยซู และมีหลักคำสอนให้นับถือพระนางมารีย์พรหมจารีเป็นพระมารดาพระเจ้าและราชินีแห่งสวรรค์ นอกจากนี้ยังเชื่อในพระเมตตา การชำระให้บริสุทธิ์โดยความเชื่อ การประกาศพระวรสาร และทำงานเพื่อสังคม ศาสนจักรคาทอลิกจึงเป็นองค์กรเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดการศึกษาและบริการสุขภาพ ในประเทศไทยเรียกคริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิกว่า “คริสตัง”

slot

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งโอโรปา

ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งโอโรปานอัครทูตคนหนึ่งของพระเยซู คริสต์ศาสนิกชนเชื่อสืบกันมาว่าเขาได้เผยแผ่ศาสนาในประเทศกรีซ ประเทศซีเรีย และฟริเจีย จนถึงแก่กรรมเพราะถูกตรึงกางเขนที่เมืองเฮียราโพลิส ในปี ค.ศ. 80 คริสตจักรโรมันคาทอลิกกำหนดให้วันฉลองนักบุญฟีลิปและนักบุญยากอบ บุตรอัลเฟอัส อยู่ในวันเดียวกันคือวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี ขณะที่คริสตจักรอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์จัดการฉลองในวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่หอสมุดนักฮัมมาดี เมื่อปี ค.ศ. 1905 พบว่ามีพระวรสารนอกสารบบอยู่เล่มหนึ่ง เรียกกันว่า “พระวรสารนักบุญฟิลิป” เพราะในพระวรสารดังกล่าวปรากฏชื่อฟิลิปเป็นอัครทูตเพียงคนเดียว แต่ชื่อผู้เขียนตัวจริงไม่ได้ระบุไว้

jumbo jili


ที่มาในคัมภีร์ไบเบิล คำว่าคริสตชนหรือคริสเตียน ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ทั้งหมดสามครั้ง ครั้งแรกในหนังสือกิจการบทที่ 11 ข้อที่ 26 “…ที่เมืองอันทิโอกนี้เอง บรรดาศิษย์ได้รับชื่อว่า “คริสตชน” เป็นครั้งแรก” ครั้งที่สองปรากฏในหนังสือกิจการ บทที่ 26 ข้อที่ 28 เมื่อเปาโลได้มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหาต่อพระเจ้าเฮโรด อากริปปา ความว่า “กษัตริย์อากริปปาจึงทรงตอบเปาโลว่า “อีกนิดเดียว ท่านก็ชักชวนเราให้เป็นคริสตชนได้แล้ว” คำว่าคริสตชนปรากฏเป็นครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายในจดหมายของนักบุญเปโตร ฉบับที่ 1 บทที่ 4 ข้อที่ 16 “แต่ถ้าทนทุกข์เพราะได้ชื่อว่าเป็นคริสตชน ก็อย่าให้คนนั้นละอายเลย แต่ให้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะชื่อนั้น”

สล็อต


คัมภีร์ไบเบิล หรือ พระคัมภีร์ (มาจากภาษากรีกโบราณว่า Βίβλος บิบลิออน แปลว่า หนังสือ) ชาวโปรเตสแตนต์เรียกว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์ (Holy Bible) เป็นหนังสือที่บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระยาห์เวห์ มนุษย์ บาป และแผนการของพระยาห์เวห์ในการช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากความพินาศอันเนื่องจากความบาปสู่ชีวิตนิรันดร์ เป็นหนังสือที่บันทึกหลักธรรมคำสอนของศาสนาคริสต์ ซึ่งในบางเล่มมีพื้นฐานมาจากหลักคำสอนของศาสนายูดาห์ของชาวยิว ชาวคริสต์เรียกคัมภีร์ไบเบิลในชื่ออื่น ๆ อีกหลายชื่อ เช่น พระวจนะของพระเจ้า (Word of God) หนังสือดี (Good Book) และคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Scripture) คริสตชนทุกคนเชื่อว่าพระคัมภีร์ทุกบททุกข้อนั้นมนุษย์เขียนขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า ประกอบด้วยหนังสือจำนวน 66 หรือ 73 หรือ 78 เล่ม (แล้วแต่นิกาย) ประกอบด้วยภาคพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมถูกเขียนขึ้นก่อนที่พระเยซูคริสต์ประสูติ ทั้งหมดเขียนเป็นภาษาฮีบรู ยกเว้นส่วนที่เป็นคัมภีร์อธิกธรรม (ยอมรับเฉพาะชาวคาทอลิก) ถูกเขียนด้วยภาษากรีกและภาษาอียิปต์ ส่วนพันธสัญญาใหม่ถูกเขียนขึ้นหลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว โดยบันทึกถึงเรื่องราวของพระเยซูตลอดพระชนม์ชีพ รวมทั้งคำสอน และการประกาศข่าวดีแห่งความรอด การยอมรับการทรมาน และการไถ่บาปของมนุษย์โดยพระเยซู การกลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ การส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังอัครทูต ประวัติศาสตร์ของคริสตจักรในยุคแรกเริ่ม ภายหลังการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูแล้ว การเบียดเบียนคริสตจักรในรูปแบบต่าง ๆ

สล็อตออนไลน์


คริสต์ศาสนิกชน หรือ คริสตชน (อังกฤษ: Christian) หมายถึง บุคคลที่นับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยมอันเกิดจากคำสอนของพระเยซูชาวนาซาเรธ คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าพระองค์คือพระคริสต์หรือพระเมสสิยาห์ที่ถูกพยากรณ์ไว้ในคัมภีร์ฮีบรู และเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้าด้วย คริสต์ศาสนิกชนส่วนใหญ่เชื่อเรื่องพระตรีเอกภาพ คือ เชื่อว่าพระเป็นเจ้าพระองค์เดียวได้ปรากฏเป็น 3 พระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามมีคริสต์ศาสนิกชนบางกลุ่มไม่ยอมรับเรื่องพระตรีเอกภาพ จึงเรียกว่า “อตรีเอกภาพนิยม” เช่น พยานพระยะโฮวา ในประเทศไทยเรียกคริสต์ศาสนิกชนชาวโรมันคาทอลิกว่าคริสตัง และชาวโปรเตสแตนต์ว่าคริสเตียน

jumboslot


ยากอบ บุตรอัลเฟอัส (อังกฤษ: James, son of Alphaeus) เป็นนักบุญและมรณสักขีในศาสนาคริสต์ ไม่ทราบสถานที่เกิดและปีที่เกิด และเสียชีวิตโดยการตรึงกางเขนที่ออสตราไคน์ ทางตอนใต้ของประเทศอียิปต์ราว ค.ศ. 62 นักบุญยากอบ บุตรอัลเฟอัสเป็นหนึ่งในอัครทูตของพระเยซู สันนิษฐานกันว่าท่านเป็นคนเดียวกับ “นักบุญยากอบองค์เล็ก” (James the Lesser) ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้กันในทางศาสนา นักบุญยากอบ บุตรอัลเฟอัสเกือบจะไม่เป็นที่กล่าวถึงเลยในพันธสัญญาใหม่ แต่ในบางครั้งกล่าวว่าเป็นคนคนเดียวกับ “ยากอบผู้ชอบธรรม” (James the Just) ผู้มีความสำคัญในการเป็นผู้นำคริสตจักรในพันธสัญญาใหม่

slot